ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “รักเชียงใหม่ 51” ยกพลนับร้อยยื่นหนังสือให้กำลังใจ “ปลอดประสพ” แต่ถูกห้ามเข้าได้อยู่แค่ริมรั้ว แจงจัดประชุมน้ำโลกที่เชียงใหม่สร้างชื่อให้ทั้งประเทศและจังหวัด แต่เอ็นจีโอกลับคิดชุมนุมป่วนงาน ยันไม่ยอมแน่หากมีประท้วงเตรียมระดมกำลังออกต้านทันที ด้านข่าวระบุคนเสื้อแดงเปลี่ยนแผนไม่ไปชุมนุมรำลึก 19 พ.ค.ที่กรุงเทพฯ แต่ปักหลักในพื้นที่รอต้านเอ็นจีโอประท้วงประชุมน้ำโลกแทน
กลุ่มรักษ์เชียงใหม่ 51 จำนวนกว่า 100 คน นำโดยนายกฤษณะ พรมบึงรำ แกนนำกลุ่มรักษ์เชียงใหม่ 51 เดินทางมายังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาในช่วงบ่ายวันนี้ (16 พ.ค. 2556) เพื่อยื่นหนังสือให้กำลังใจ ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.ต.เทิดศักดิ์ ชัยสิทธิ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำโดย พล.ต.ท..สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 คอยดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้เดินทางมายังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ครั้งที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. โดยระบุว่าจะมายื่นหนังสือเพื่อให้กำลังใจนายปลอดประสพ แต่แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบริเวณประตู 6 ใกล้ศูนย์กระจายสินค้าเกษตรภาคเหนือซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 รวมตัวกัน ไม่เปิดประตูให้เข้ามาภายในบริเวณศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จึงชุมนุมอยู่ที่บริเวณด้านนอก พร้อมกับชูแผ่นป้ายที่มีข้อความให้กำลังนายปลอดประสพ ก่อนที่ พล.ต.เทิดศักดิ์จะเดินทางมารับหนังสือดังกล่าว จากนั้นกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จึงได้สลายตัวไป
นายกฤษณะ ในฐานะแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มซึ่งมามาในนามของคนเชียงใหม่ ต้องการให้กำลังใจรองนายกรัฐมนตรีที่ตั้งใจทำให้เกิดการประชุมครั้งนี้ขึ้น ซึ่งการประชุมดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ในการแสวงหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ขณะเดียวกันการที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดการประชุม ถือเป็นการยกระดับให้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เป็นที่รู้จักในระดับโลก สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่
แต่ทต่อมากลับปรากฏว่ามีกลุ่มเอ็นจีโอ ซึ่งตนเองเห็นว่าเป็นกลุ่มเอ็นจีโอนอกคอกมาชุมนุมประท้วงเพียงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากต่างประเทศ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับความเสียหายทั้งในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทั้งนี้การประท้วงนโยบายของรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกกาละเทศะ เพราะการประชุมครั้งนี้การประชุมเชิงวิชาการ เป็นการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การบริหารการจัดการน้ำของแต่ละประเทศที่เคยประสบวิกฤตทางน้ำ
ดังนั้นใครก็ตามที่จะมาทำลายบรรยากาศการประชุมเปรียบเสมือนขยะ ต้องมีการตอบโต้แบบตาต่อตาและฟันต่อฟัน ทั้งนี้หากมีการมาชุมนุมประท้วงที่บริเวณศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จะออกมาสกัดกั้นและตอบโต้ทันที เพราะไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของเชียงใหม่เสียหาย โดยทางกลุ่มจะแจ้งสมาชิกให้เตรียมความพร้อม และหากเกิดเหตุการณ์จริงก็จะระดมคนกว่า 5 พันคนเพื่อมาสกัดกั้นผู้ที่มาประท้วงอย่างแน่นอน
นายกฤษณะยังกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่บางฝ่ายระบุว่า ดร.ปลอดประสพพุดจารุนแรงนั้น ตนมองว่าขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแต่ละคน แต่สำหรับตนเห็นว่ารองนายกรัฐมนตรีเป็นคนปากตรงกับใจ
ด้าน พล.ต.เทิดศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีให้มาต้อนรับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมทั้งจะแจ้งเรื่องการมาให้กำลังใจให้ ดร.ปลอดประสพได้ทราบต่อไป ในนามของรองนายกรัฐมนตรีตนขอขอบคุณที่คนเชียงใหม่เชื่อมั่นในการทำงานและเห็นความสำคัญของการจัดประชุมในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามทุกคนเป็นคนไทย การจะทำอะไรก็ขอให้อยู่ในความสามัคคี อย่ากระทบกระทั่งกัน เพราะการกระทบกระทั่งไม่ใช่ความต้องการของรัฐบาลหรือของรองนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ในระหว่างที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ชุมนุมอยู่ที่บริเวณประตู 6 นั้น ดร.ปลอดประสพได้ออกสำรวจอาคารสถานที่ภายในบริเวณศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ และโดยในระหวว่างนั้นมีประชาชนชาวเชียงใหม่จำนวน 4-5 คนซึ่งระบุว่าเดินทางมาชมนิทรรศการและได้พบกับ ดร.ปลอดประสพ จึงถือโอกาสมอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจให้ โดยคนกลุ่มดังกล่าวได้บอกกับน ดรงปลอดประสพว่าให้สู้ต่อไปและขอขอบคุณที่ทำเพื่อคนเชียงใหม่ ขณะที่ ดร.ปลอดประสพซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มหลังจากได้รับมอบดอกไม้จากประชาชนกล่าวตอบว่า ตอนนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่ทำนั้นทำเพื่อชาวเชียงใหม่และประเทศไทย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ ต่อกรณีที่จะมีกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอที่ทำงานด้านน้ำออกมาเคลื่อนไหวในช่วงระหว่างการประชุมนั้น พบว่ากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งนำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ได้เปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพมหานครเพื่อร่วมกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุม 19 พ.ค. 2553 มาเป็นการจัดกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่แทน
โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมประมาณ 1,000 คน ทั้งหมดพร้อมที่จะเป็นอาสาสมัครช่วยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมดูแลไม่ให้กลุ่มเอ็นจีโอชุมนุมก่อความวุ่นวายใดๆ ที่จะกระทบต่อการประชุมในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเห็นว่าหากมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเอ็นจีโอ จะเป็นการทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของประเทศอย่างร้ายแรง เพราะการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับนานาชาติ ที่มีผู้นำและตัวแทนจากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วม หากกลุ่มเอ็นจีโอต้องการจะเคลื่อนไหวหรือยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีก็ควรจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ทำเนียบรัฐบาลมากกว่า
