สนง.คุมประพฤติยันไม่เกี่ยว จนท.ซุกปืนเข้าคุกลำปาง ย้ำแค่หางบให้กรมคุกจ้าง

ลำปาง - อธิบดีกรมราชทัณฑ์เตรียมลงพื้นที่สอบสวนผู้ควบคุมตรวจพิสูจน์ซุกปืนเข้าเรือนจำกลางลำปาง หวังควานหาตัวคนสั่งการ-ผู้ร่วมขบวนการให้ได้ ด้าน ผอ.คุมประพฤติลำปางยัน จนท.ตัวแสบไม่ใช่คนในสังกัด บอกแค่หางบให้เรือนจำบริหาร-จ้างคนเท่านั้น

วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ลำปางถึงความคืบหน้าคดีจับกุมนายเอกลักษณ์ ผดุงเทศ เจ้าหน้าที่ควบคุมตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางลำปาง ที่ลักลอบซุกซ่อนปืนนำเข้าเรือนจำเตรียมส่งให้ผู้ต้องขังรายหนึ่งใช้แหกคุกว่า พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดลำปางเพื่อไปตรวจสอบเหตุการณ์ และซักถามนายเอกลักษณ์ด้วยตนเอง รวมถึงจะร่วมประชุมวิเคราะห์ข้อมูลการข่าวว่ามีนักโทษรายสำคัญคนใดถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางลำปาง ซึ่งอยู่ในข่ายสั่งลักลอบนำเข้าอาวุธปืน ยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำ

เนื่องจากหากไม่ได้ข้อเท็จจริงและนักโทษยังอยู่ในเรือนจำก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการลักลอบติดต่อ และติดสินบนเจ้าหน้าที่รายอื่นให้นำอาวุธ และยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำอีกได้

ด้าน น.ส.ญาดา มนทมาส ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดลำปาง กล่าวว่า กรณีที่ระบุว่านายเอกลักษณ์เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคุมประพฤตินั้นไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ทำในลักษณะพหุภาคี คือหลายหน่วยงานร่วมกันดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด 2545 โดยมีกรมคุมประพฤติเป็นฝ่ายเลขานุการ หรือเจ้าภาพหลักในระบบบังคับบำบัด ซึ่งจะทำหน้าที่ในการของบประมาณ และโอนเงินงบประมาณให้แก่หน่วยงานภาคีดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ จะมีเรือนจำต่างๆ เข้ามาทำหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกรณีตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วงหรือเสพยาเสพติด และเข้าสู่กระบวนการตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยมีที่ควบคุมอยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งแยกส่วนจากผู้ต้องขังคดีอื่น และมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบแยกต่างหากจากผู้คุมในส่วนอื่นของเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนนี้จะเป็นพนักงานราชการที่ทางเรือนจำกลางลำปางเป็นผู้สอบ ว่าจ้างเอง และประเมินผลการปฏิบัติงานเอง

“กรมคุมประพฤติจะของบประมาณแล้วโอนให้ทางกรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำต่างๆ บริหารจัดการกันเอง รวมถึงในการบังคับบัญชาทุกอย่าง การมอบหมายงานให้ทำก็เป็นบทบาทหน้าที่ของเรือนจำทั้งหมด ซึ่งบางเรือนจำก็ให้ไปทำงานอื่น กรมคุมประพฤติหรือทางสำนักงานคุมประพฤติไม่มีอำนาจไปดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดลำปางขอยืนยันว่านายเอกลักษณ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน การว่าจ้าง การบังคับบัญชาทั้งหมด เรือนจำกลางลำปางเป็นผู้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด 2545”