รอยเตอร์ - จีนกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดสำหรับปักกิ่งนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น โดยมีปากีสถานเป็นลูกค้ารายใหญ่ สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศ (SIPRI) ในสวีเดน รายงานวันนี้(18)
อาวุธที่จีนส่งออกระหว่างปี 2008-2012เพิ่มขึ้นถึง 162% เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อนหน้านั้น ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดก็ขยายตัวจาก 2% เป็น 5% สถาบัน SIPRI ระบุ
ปักกิ่งยังพุ่งแซงหน้าอังกฤษเข้ามาอยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกอาวุธ 5 อันดับแรกของโลกระหว่างปี 2008-2012 ที่ผ่านมา ซึ่งในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสหรัฐฯและรัสเซียเป็นผู้นำ โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 30% และ 26% ตามลำดับ ตามมาด้วยเยอรมนีและฝรั่งเศส
“จีนพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นผู้จัดส่งอาวุธรายใหญ่สำหรับกลุ่มลูกค้าสำคัญๆหลายประเทศ” พอล ฮอลทอม ผู้อำนวยการโครงการวิจัยการเคลื่อนย้ายอาวุธของ SIPRI เผย
ในรายงานชุด “แนวโน้มการเคลื่อนย้ายอาวุธระหว่างประเทศ” (Trends in International Arms Transfers) มีชื่อจีนปรากฎอยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกอาวุธท็อปไฟว์ของโลกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ช่วงปี 1986-1990 เป็นต้นมา
ในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก จีนเริ่มให้ความสำคัญต่อการเสริมแสนยานุภาพทางทหาร และทุ่มงบประมาณไปกับโครงการพัฒนาอาวุธสงครามสมัยใหม่ รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินไร้คนขับ
เฮลิคอปเตอร์โจมตี, ขีปนาวุธ, เครื่องบินไร้คนขับ และระบบป้องกันประเทศของจีน ได้รับการเปิดเผยต่อสายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกในงานแสดงการบินซึ่งจัดขึ้นที่เมืองจูไห่ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
“ปากีสถานซึ่งเป็นผู้รับซื้ออาวุธจากจีนถึงร้อยละ 55 คาดว่าจะยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ต่อไปอีกหลายปี เมื่อพิจารณาจากแผนสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่, เรือดำน้ำ และเรือฟริเกตจากจีนเป็นจำนวนมาก” SIPRI ระบุ
ขณะเดียวกัน พม่าซึ่งเริ่มกระบวนการปฏิรูปประเทศอันเปราะบาง และเป็นความหวังของสหรัฐฯที่จะใช้คานอำนาจปักกิ่ง ก็เป็นปลายทางของอาวุธราว 8% ที่ส่งออกจากจีน
จีนส่งออกอาวุธราว 7% ไปยังบังกลาเทศ ขณะที่ไนจีเรีย, เวเนซุเอลา และโมร็อกโก ก็เป็นลูกค้าเรือฟริเกต, เครื่องบิน และยานเกราะที่ผลิตในแดนมังกรมาหลายปีแล้ว
ทั้งนี้ จีนไม่เคยเปิดเผยข้อมูลการส่งออกอาวุธอย่างเป็นทางการมาก่อน
ในฐานะผู้นำเข้าอาวุธ จีนยังคงเป็นรองแค่เพียงอินเดียเท่านั้น ทว่าสัดส่วนการนำเข้าอาวุธของจีนก็ลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากรัฐบาลหันมาสนับสนุนการพัฒนาและผลิตอาวุธเองภายในประเทศ
ด้วยงบประมาณมหาศาลที่รัฐบาลจีนทุ่มไปกับการเสริมศักยภาพกองทัพมานานนับสิบปี รวมถึงเม็ดเงินที่อัดฉีดแก่คู่สัญญาของกระทรวงกลาโหม ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า อาวุธที่จีนผลิตบางรายการมีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าอาวุธของรัสเซียและชาติตะวันตก
