สตช.สั่งเร่งขยายผลสอบ 6 คนไทยถูกทางการสหรัฐฯจับกุมในข้อหาค้าอาวุธ อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับขบวนการค้าอาวุธทั้งในและต่างประเทศ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ต่อต้านการจารกรรม กระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา จับกุมคนไทย 6 คน ในข้อหาร่วมกันค้าอาวุธซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การส่งออกอาวุธปืนของสหรัฐฯ ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ลงไปกำกับดูแลการตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงดำเนินการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายในประเทศไทย ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ควบคุมดูแล บูรณาการการปฏิบัติของหน่วยที่เกี่ยวข้อง และ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำกับดูแลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร.สั่งการให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจการเดินทางเข้า-ออกประเทศของบุคคลที่ถูกจับกุมทั้ง 6 คน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการเดินทางเข้า-ออกประเทศหลายครั้ง ขณะเดียวกันให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาลและกองบังคับการปราบปราม เร่งสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลทั้ง 6 คน และความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบค้าอาวุธข้ามชาติหรือขบวนการค้าอาวุธในประเทศ รวมทั้งเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำผิด โดยให้ประสานกับ บช.น. บช.ภ.1-9 และ ศชต.อย่างใกล้ชิด โดยให้ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นศูนย์ขับเคลื่อนการตรวจสอบและรวบรวมผลการปฏิบัติ นอกจากนี้ให้กองการต่างประเทศ ประสานกับสถานเอกอัครทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ตำรวจสากล และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอทราบรายละเอียด และข้อมูลการกระทำผิดของคนไทยทั้ง 6 คน เพื่อเป็นแนวทางให้มีการสืบสวนขยายผลถึงขบวนการที่อยู่ในประเทศไทย และให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจสอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนของกลางที่ไม่มีทะเบียน ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อหาความเชือมโยงกับคดีนี้
“ยืนยันว่าแม้คดีนี้จะเกิดขึ้นและผู้กระทำผิดถูกจับกุมในต่างประเทศ แต่เมื่อปรากฏข่าวสารว่าบางส่วนอาจจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ คาดว่าเร็วๆ นี้ ทุกอย่างจะมีความคืบหน้า” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงเส้นทางของอาวุธปืนของกลุ่มผู้กระทำผิดที่ถูกจับกุมครั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ กองการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลอย่างเป็นทางการจากทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ทำงาน และอยู่ระหว่างขั้นตอนการต่อจิ๊กซอว์ ให้การบ้านทุกหน่วยไปทำงาน อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบของกลางในคดีนี้เป็นเพียงชิ้นส่วนอาวุธปืน ไม่ใช่อาวุธปืนทั้งระบบ เมื่อถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยมีข้อมูลของขบวนการนำเข้าอาวุธปืนเหล่านี้หรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบการซื้อขายชิ้นส่วนอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต แต่เป็นเพียงขาจร ไม่ได้เป็นรูปแบบของขบวนการแต่อย่างใด
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ต่อต้านการจารกรรม กระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา จับกุมคนไทย 6 คน ในข้อหาร่วมกันค้าอาวุธซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การส่งออกอาวุธปืนของสหรัฐฯ ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ลงไปกำกับดูแลการตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงดำเนินการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายในประเทศไทย ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ควบคุมดูแล บูรณาการการปฏิบัติของหน่วยที่เกี่ยวข้อง และ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำกับดูแลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร.สั่งการให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจการเดินทางเข้า-ออกประเทศของบุคคลที่ถูกจับกุมทั้ง 6 คน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการเดินทางเข้า-ออกประเทศหลายครั้ง ขณะเดียวกันให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาลและกองบังคับการปราบปราม เร่งสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลทั้ง 6 คน และความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบค้าอาวุธข้ามชาติหรือขบวนการค้าอาวุธในประเทศ รวมทั้งเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำผิด โดยให้ประสานกับ บช.น. บช.ภ.1-9 และ ศชต.อย่างใกล้ชิด โดยให้ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นศูนย์ขับเคลื่อนการตรวจสอบและรวบรวมผลการปฏิบัติ นอกจากนี้ให้กองการต่างประเทศ ประสานกับสถานเอกอัครทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ตำรวจสากล และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอทราบรายละเอียด และข้อมูลการกระทำผิดของคนไทยทั้ง 6 คน เพื่อเป็นแนวทางให้มีการสืบสวนขยายผลถึงขบวนการที่อยู่ในประเทศไทย และให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจสอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนของกลางที่ไม่มีทะเบียน ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อหาความเชือมโยงกับคดีนี้
“ยืนยันว่าแม้คดีนี้จะเกิดขึ้นและผู้กระทำผิดถูกจับกุมในต่างประเทศ แต่เมื่อปรากฏข่าวสารว่าบางส่วนอาจจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ คาดว่าเร็วๆ นี้ ทุกอย่างจะมีความคืบหน้า” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงเส้นทางของอาวุธปืนของกลุ่มผู้กระทำผิดที่ถูกจับกุมครั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ กองการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลอย่างเป็นทางการจากทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ทำงาน และอยู่ระหว่างขั้นตอนการต่อจิ๊กซอว์ ให้การบ้านทุกหน่วยไปทำงาน อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบของกลางในคดีนี้เป็นเพียงชิ้นส่วนอาวุธปืน ไม่ใช่อาวุธปืนทั้งระบบ เมื่อถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยมีข้อมูลของขบวนการนำเข้าอาวุธปืนเหล่านี้หรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบการซื้อขายชิ้นส่วนอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต แต่เป็นเพียงขาจร ไม่ได้เป็นรูปแบบของขบวนการแต่อย่างใด
