เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อต่างประเทศรายงาน เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯบุกเข้ารวบตัวหญิงสาวชาวไทยในเมืองเบิร์กลีย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังพบหลักฐานว่า สาวไทยรายนี้เกี่ยวข้องกับแก๊งค้าอาวุธข้ามชาติที่เป็นคนไทย ลักลอบส่งออกชิ้นส่วนอาวุธปืนจากสหรัฐฯ เข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก รวมถึงหนังสือพิมพ์รายวันท้องถิ่น “ซานโฮเซ เมอร์คิวรี นิวส์” ซึ่งมียอดจำหน่ายมากกว่าวันละ 527,000 ฉบับต่อวันในแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า หญิงสาวที่ถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ คือนาง “สุพรรณี แสงอุทัย” วัย 35 ปี ซึ่งถือสัญชาติไทย และการบุกเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯเกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เอมิลี แลงลี โฆษกหญิงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (ดีโอเจ) แถลงยืนยันว่า หญิงไทยซึ่งใช้นามสกุล “แสงอุทัย” รายนี้ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่เมืองเบิร์กลีย์ พร้อมกับผู้ชายอีก 4 คน และผู้หญิงอีก 1 คน โดยทั้ง 6 คนถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดปฏิบัติการรวบตัวได้ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งในนครซีแอตเติล ลอส แองเจลิส และลาสเวกัส
รายงานระบุว่า นางแสงอุทัย พร้อมพวกอีก 5 คน ได้สมคบคิดกันกระทำการ “ละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ” ว่าด้วยการควบคุมการส่งออกอาวุธ
โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งจับตาดูความเคลื่อนไหวของนางแสงอุทัย มานานแรมปี มีหลักฐานว่า หญิงไทยรายนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบส่งออกอาวุธปืนและชิ้นส่วนมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องกว่า 240 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา โดยอาศัยการใช้ชื่อปลอมและใบอินวอยซ์ปลอมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นผู้หญิงไทยรายนี้ยังใช้วิธีการแพ็กสินค้าแบบพิเศษเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับด้วยเครื่องเอกซเรย์ของทางการสหรัฐฯอีกด้วย
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่า ชิ้นส่วนอาวุธปืนซึ่งรวมถึงแมกกาซีนปืนพกแบบ .45 คาลิเบอร์ รวมถึงปืนไรเฟิลถูกส่งมายังจุดหมายปลายทางแห่งใดในประเทศไทย แต่คดีดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รวมถึง เจนนี เดอร์แคน อัยการชื่อดังของสหรัฐฯ
ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ดีโอเจ ระบุว่าชิ้นส่วนอาวุธปืนบางส่วนถูกติดฉลากตบตาว่าเป็นอุปกรณ์จำพวก “มาร์กเกอร์” ที่สามารถเรืองแสงได้ในความมืด ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่เมืองลุงแซม
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องอีก 5 คนที่ถูกทางการสหรัฐฯจับกุมต่างมีเชื้อสาย “ไทย” ทั้งสิ้น ประกอบด้วยนาย Naris Lekhakul วัย 42 ปี ที่ถูกรวมตัวได้คาสนามบินนานาชาติซีแอตเติล-ทาโคมา, นาย Nares Lekhakul น้องชายวัย 36 ปี ซึ่งเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯตามกฎหมายในรัฐวอชิงตัน, นาย Witt Sittikornwanish วัย 24 ปี, นาย Wimol Brumme วัย 41 ปี ที่ถูกรวบตัวได้จากนครลาส เวกัส และนาย Sangsit Mowanna วัย 35 ปีจาก นครลอส แองเจลิส