เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กาตาร์บรรลุข้อตกลงจัดซื้อรถถังจากเยอรมนีในวงเงินมหาศาลเกือบ 72,000 ล้านบาท ตามแผนการเสริมเขี้ยวเล็บครั้งใหญ่ของรัฐอาหรับอันมั่งคั่งแห่งภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลกาตาร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ฮาหมัด บิน ยัสซิม บิน จาเบอร์ บิน มูฮัมหมัด อัล ทานี บรรลุข้อตกลงกับบริษัทผลิตอาวุธชื่อดังของเยอรมนีอย่าง “เคราส์ส-มัฟไฟ เวกมันน์ มาชิเนนเบา คีล” ในนครมิวนิก ในการจัดซื้อรถถังประจัญบานแบบ “ลีโอพาร์ด” พร้อมกับจัดซื้อปืนใหญ่จากบริษัท “ไรน์เมทาลล์” แห่งเมืองดุสเซลดอร์ฟ ในวงเงินรวมกันกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71,913 ล้านบาท)
การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ล่าสุดของรัฐบาลกาตาร์เป็นส่วนหนึ่งของแผนเสริมเขี้ยวเล็บของรัฐอาหรับผู้มั่งคั่งแห่งนี้เพื่อทดแทนรถถังแบบดั้งเดิมในกองทัพกาตาร์ที่ซื้อมาจากฝรั่งเศส และปืนใหญ่ที่ซื้อจากแอฟริกาใต้ซึ่งต่างมีอายุใช้งานยาวนานแล้ว
โดยข้อตกลงในการจัดซื้ออาวุธของรัฐบาลกาตาร์ในครั้งนี้ครอบคลุมถึงรถถังลีโอพาร์ดแบบ 2A7 จำนวน 62 คัน รวมถึงปืนครกแบบ PzH 2000 อีกอย่างน้อย 24 ชุด
ขณะเดียวกัน การบรรลุข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกาตาร์กับบริษัทพัฒนาอาวุธชื่อดังทั้ง 2 แห่งของเยอรมนียังมีขึ้นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ บริษัท เคราส์ส-มัฟไฟ เวกมันน์ มาชิเนนเบา คีล เปิดการเจรจาขายรถถังแบบลีโอพาร์ดจำนวน 270 คันให้แก่ทางการซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการขายเรือรบและรถหุ้มเกราะแก่รัฐบาลแอลจีเรีย และขายเรือดำน้ำรุ่นล่าสุดให้ทางการอียิปต์ ขณะที่เพื่อนบ้านอีกชาติหนึ่งของกาตาร์อย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก็ได้จัดซื้ออาวุธ “เมดอินเยอรมนี” คิดเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 1,570 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 45,196 ล้านบาท) ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคม สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์มซึ่งเป็นหน่วยงานที่ติดตามความเคลื่อนไหวของการค้าอาวุธในระดับโลก ได้จัดให้เยอรมนีเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับที่ 3 ของโลกในขณะนี้ รองจากสหรัฐอเมริกา และรัสเซีย
