ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สรุปผลปัญหาหมอกควันไฟป่าปี 56 เชียงใหม่มีวันอากาศเกินค่ามาตรฐานสูงเป็นอันดับ 3 ของภาค ตามหลัง “แม่ฮ่องสอน-เชียงราย” ด้านไฟป่าไหม้ป่าไป 12,000 กว่าไร่แต่ Hot Spot ต่ำกว่าปี 55 “ดอยสะเก็ด” ครองแชมป์ไฟป่าส่วน “แม่แจ่ม” ครองแชมป์ Hot Spot ขณะที่ยอดผู้ป่วย 4 โรคสะสมที่อาจได้รับผลกระทบพบสูงถึง 68,000 กว่าราย
จังหวัดเชียงใหม่ มีวันที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานสูงเป็นอันดับ 3 ของภาค จากการเปิดเผยในที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวย ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีนายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุม
การประชุมดังกล่าวซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมนั้น ได้มีการสรุปสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควัน ในช่วง 100 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 21 ม.ค.-30 เม.ย.2556 โดยข้อมูลสรุปจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผลคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงดังกล่าว พบว่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 21-212 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยในในส่วนของสถิติจำนวนวันที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานนั้น พบว่าจังหวัดชียงใหม่มีวันที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานทั้งสิ้น 25 วัน ถือเป็นอันดับ 3 ของ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยอันดับ 1 นั้นได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีวันที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานทั้งสิ้น 38 วัน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนสูงสุดอยู่ที่ 428 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่อันดับ 2 ได้แก่ จังหวัดเชียงราย มีวันที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานทั้งสิ้น 27 วัน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนสูงสุดอยู่ที่ 309 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ด้านรายงานสรุปจากส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 แจ้งว่า มีสถิติการรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟป่าสะสมรวมจำนวน 1,172 ครั้ง มีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 12,758 ไร่ โดยอำเภอที่เกิดไฟป่ามากที่สุดคือ อำเภอดอยสะเก็ด 210 ครั้ง รองลงมาได้แก่ อำเภอจอมทอง 168 ครั้ง และอำเภอเชียงดาว 167 ครั้ง
ส่วนสถิติจุดความร้อนที่คาดว่าเป็นการเผาในที่โล่ง หรือจุด Hot Spot ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น พบทั้งหมด 2,153 จุด น้อยกว่าปี 255 ที่มีจำนวน Hot spot ถึง 3,327 จุด โดยในปีนี้อำเภอที่พบ Hot Spot มากที่สุดคือ อำเภอแม่แจ่ม 525 จุด รองลงมาคืออำเภออมก๋อย 441 จุด และอำเภอเชียงดาว 191 จุด
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะหมอกควันและไฟป่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ.–30 เม.ย.2556 จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่พบว่า มีผู้ป่วยสะสม ซึ่งป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจหลอดเลือด โรคตา และโรคผิวหนัง จำนวนทั้งสิ้น 68,830 ราย