ลำปาง - สาวน้อยชาวลำปางน้ำใจยิ่งใหญ่ แอบบริจาคร่างกายตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ล่าสุดประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่ต่อชีวิตให้เพื่อนมนุษย์ถึง 6 คน ขณะที่ผู้เป็นพ่อสุดภาคภูมิใจ เชื่อลูกเห็นพ่อเป็นต้อหินต้องเข้า รพ.บ่อยเป็นแรงบันดาลใจ
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่วัดสบตุ๋ย ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง สถานที่บำเพ็ญกุศลศพ น.ส.เพ็ญนภา วงษ์ทอง อายุ 20 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีเพื่อนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ลำปาง เดินทางมาเคารพศพ และไว้อาลัย รวมถึงชาวบ้าน และตัวแทนของโรงพยาบาลลำปางได้นำเงินมาช่วยเหลือ พร้อมขอบคุณที่เป็นผู้เสียสละบริจาคอวัยวะของตนเองเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อีกถึง 6 คน
นายธีระพัทธ์ วงษ์ทอง บิดาของ น.ส.เพ็ญนภา กล่าวด้วยความตื้นตันใจเมื่อพูดถึงลูกสาวที่เสียชีวิตว่า ภูมิใจในตัวลูกสาวเป็นอย่างมากที่ตัดสินใจบริจาคร่างกายให้สภากาชาดไทย ซึ่งตนก็ไม่ทราบมาก่อน จนกระทั่งทางสภากาชาดไทยส่งบัตรประจำตัวผู้บริจาคมาให้เมื่อประมาณสามปีที่ผ่านมา จึงได้สอบถาม ซึ่งลูกสาวได้เล่าให้ฟังว่าเมื่ออายุได้ 17 ปีระหว่างที่ไปติวหนังสือเพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยที่ จ.เชียงใหม่ ได้ไปบริจาคร่างกายแก่สภากาชาดไทย แต่ก็ไม่ได้บอกทางบ้าน
นายธีระพัทธ์กล่าวว่า ไม่ได้ถามถึงสาเหตุที่ลูกไปบริจาคร่างกาย แต่เข้าใจว่าในสมัยที่ลูกสาวอยู่ชั้นมัธยมต้นตนเองมีอาการป่วย คือเป็นต้อหินที่ตาด้านซ้าย และต้องไปหาหมอ ลูกสาวกลัวว่าพ่อจะตาบอด ซึ่งอาจจะเป็นจุดนี้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ลูกคิดบริจาคร่างกายเมื่อเสียชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนอื่นด้วย ซึ่งตนก็ภูมิใจกับลูกสาวมาก เพราะหลังเสียชีวิตแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือต่อชีวิตให้คนอื่น รวมถึงช่วยผู้ที่ด้อยโอกาสได้อีกถึง 6 คน
“น้อยนักที่เด็กอายุขนาดนี้จะมีแรงบันดาลใจได้แบบนี้ จึงอยากฝากเรื่องของลูกสาวไว้เป็นแบบอย่างแก่เยาวชนในการรู้จักเสียสละต่อไป”
ทั้งนี้ เพ็ญนภาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ลำปาง ปี 3 คณะครุศาสตร์ ประสบอุบัติเหตุรถแฉลบ ศีรษะกระแทกพื้นถนน เมื่อคืนวันที่ 24 พฤษภาคม และเสียชีวิตวันที่ 25 พฤษภาคม หลังสมองตาย แพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้เดินทางมาผ่าตัดและนำอวัยวะไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอการรักษา 6 ราย คือ ดวงตาสองข้างมอบให้โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ไตสองข้าง หัวใจ และตับ มอบให้สภากาชาดไทย ส่วนตับอ่อน และปอดสองข้าง ซึ่งอยู่ในสภาพที่ดี แต่ไม่มีผู้ขึ้นทะเบียนประสงค์ขอรับบริจาค จึงไม่ได้มอบให้ผู้ใด
ด้านตัวแทนโรงพยาบาลลำปางฝากถึงประชาชนว่า หากเจ็บป่วยไม่ว่าจะเกี่ยวกับปอด ตับ หรืออวัยวะส่วนใดของร่างกายก็ตามอยากจะให้ไปขึ้นทะเบียนไว้ เพราะเมื่อมีผู้บริจาคก็จะสามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที แต่หากไม่มีผู้ประสงค์ขอรับบริจาค อย่างเช่นกรณีของ น.ส.เพ็ญนภา ยังมีอวัยวะที่สามารถนำไปช่วยเหลือคนได้ เช่น ตับอ่อน และปอดทั้งสองข้าง ก็จะเสียเปล่า
ส่วนประชาชนทั่วไปที่ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ ว่าหากบริจาคร่างกายแล้วเกิดมาชาติหน้าจะมีอวัยวะไม่ครบ 32 ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะการบริจาคร่างกายนอกจากจะทำให้การเสียชีวิตไม่สูญเปล่าแล้ว ยังเป็นการช่วยชีวิตคน ถือว่าเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้ตัวเองอีกด้วย