ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เทรลเลอร์บรรทุกรถหรู 6 คันส่งลูกค้าศรีสะเกษเกิดไฟลุกท่วมเผาวอด 4 คันบน ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง โคราช คาดสูญ 100 ล้าน คนขับงงเกิดไฟปริศนาลุกไหม้เอง อีกทั้งตกร่องกลางถนนขวางจราจรรถติดยาวเหยียดหลาย กม. ด้าน ตร.มึนตึ้บยังระบุสาเหตุไม่ได้ แต่ยันไม่ใช่วางเพลิง เผยเป็นรถหรูมือสอง ประสาน จนท.วิทยาการตรวจสอบยิบพรุ่งนี้ (30 พ.ค.)
เมื่อเวลา 07.14 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ร.ต.ท.บุญส่ง หวังแนบกลาง ร้อยเวร สภ.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์สปอร์ตหรูราคาแพงหลายคันที่บรรทุกมาบนรถเทรลเลอร์เพื่อนำส่งลูกค้าโดยไม่ทราบสาเหตุบนถนนมิตรภาพ ช่วงทางขึ้นเขากลางดง ระหว่างหลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 36-37 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อม พ.ต.อ.มาโนช เกิดขวัญ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.กลางดง หน่วยกู้ชีพกลางดง และรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลกลางดง เทศบาลตำบลสีมามงคล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พญาเย็น รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถเทรลเลอร์สำหรับบรรทุกรถยนต์ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 60-2915 ทะเบียนตัวพ่วง 60-2915 จอดขวางถนนมิตรภาพ 2 ช่องจราจร ส่วนหัวของรถตกอยู่ร่องกลางถนนระหว่างช่องทางด่วนกับทางคู่ขนานฝั่งขาเข้า จ.นครราชสีมา และไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์เก๋งแบบสปอร์ตที่บรรทุกอยู่บนรถเทรลเลอร์คันดังกล่าวจำนวน 4 คัน ประกอบด้วย รถยนต์เก๋งที่บรรทุกอยู่บนชั้น 2 จำนวน 2 คัน คือ รถยนต์เก๋งยี่ห้อ เบนท์ลีย์ ป้ายแดง 1 คัน และรถยนต์เก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ป้ายแดง 1 คัน ส่วนชั้นล่างเป็นรถยนต์เก๋งแบบสปอร์ต ลัมบอร์กินี สีขาว ป้ายแดง 1 คัน และรถยนต์เก๋งแบบสปอร์ต ยี่ห้อ เฟอร์รารี่ ป้ายแดง 1 คัน เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ก่อนที่จะสามารถดับไฟไว้ได้ เข้าตรวจสอบพบรถยนต์หรูได้รับความเสียหายทั้งหมด 4 คัน
นอกจากนี้ รถเทรลเลอร์คันที่เกิดเหตุได้ขวางการจราจรบนถนนมิตรภาพ ทำให้รถยนต์ของประชาชนวิ่งมุ่งหน้าเข้าสู่ จ.นครราชสีมาติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร (กม.) และเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง (ชม.)
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเอกพัฒก์ วิลามาศ อายุ 37 ปี คนขับรถเทรลเลอร์คันเกิดเหตุ บอกว่า ตนขับรถเทรลเลอร์มากับเด็กรถอีก 2 คน โดยบรรทุกรถยนต์หรูมาทั้งหมดจำนวน 6 คัน ประกอบด้วย รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ 1 คัน, รถเบนท์ลีย์ 2 คัน, รถลัมบอร์กินี 1 คัน, รถเฟอร์รารี่ 1 คัน และรถบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน เพื่อไปส่งลูกค้าที่ จ.ศรีสะเกษ โดยออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 03.00 น. เมื่อวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุช่วงทางขึ้นเขากลางดงได้รับแจ้งจากรถบรรทุกที่วิ่งแซงขึ้นมาตะโกนร้องบอกว่า ไฟไหม้รถที่บรรทุก ตนจึงรีบจอดรถชิดขอบทางด้านขวาพร้อมดึงเบรกมือไว้ก่อนวิ่งลงไปดู และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันไฟได้ลุกไหม้สายลมเบรก ทำให้เบรกคลายตัว รถจึงไหลลงจากเนินพลัดตกลงไปในร่องกลางถนนดังกล่าว
นายเอกพัฒก์กล่าวอีกว่า รถยนต์ทุกคันที่บรรทุกมาได้ล็อกประตูหมด และเก็บกุญแจไว้เอง ไม่ทราบว่าเกิดเพลิงลุกไหม้ได้อย่างไร โดยไฟได้ลุกไหม้จากรถบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งบรรทุกอยู่ชั้นบนคันท้ายสุดก่อน จากนั้นไฟได้ลามไปไหม้รถเก๋งเบนท์ลีย์ที่อยู่ด้านหน้า และลุกลามลงมายังชั้นล่างทำให้ไหม้รถเสียหายทั้งหมด 4 คัน ซึ่งยังโชคดีที่รถดับเพลิงมาช่วยดับไฟไว้ได้ทัน ทำให้รถเบนท์ลีย์ สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน บ 8888 กทม. และรถเบนซ์ สีขาว ทะเบียนป้ายเดง อ 6969 กทม. ที่บรรทุกอยู่ด้านหน้าสุดไม่ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ รถที่เสียหายทั้ง 4 คันเป็นรถยนต์หรูราคาแพง โดยรถลัมบอร์กินีมีราคาประมาณ 40 ล้านบาท, รถเฟอร์รารี่ราคาประมาณ 30 ล้านบาท, รถเบนท์ลีย์ ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และบีเอ็มดับเบิลยูราคาประมาณ 10 ล้านบาท รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา มาตรวจสอบเก็บรวบรวมพยานหลักฐานรถที่เกิดเหตุไฟไหม้อย่างละเอียดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) เพื่อหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ที่แท้จริงต่อไป
พ.ต.อ.มาโนช เกิดขวัญ ผกก.สภ.กลางดง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ารถคันเกิดเพลิงไหม้คันแรกเป็นรถบีเอ็มดับเบิลยูที่บรรทุกอยู่ด้านท้ายสุดบนชั้น 2 และลุกลามไปยังรถคันอื่น ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่ารถยนต์หรูที่บรรทุกมาทั้งหมดเป็นรถยนต์ที่ใช้แล้ว หรือรถมือสองใช้ในประเทศ ไม่ใช่รถใหม่นำเข้าจากต่างประเทศแต่อย่างใด ล่าสุดบริษัทเจ้าของรถยนต์ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแล้ว และรอบริษัทประกันภัยเข้ามาตรวจสอบเพื่อประเมินความเสียหาย พนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ได้มาก
ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ไม่ใช่การวางเพลิงอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากการทิ้งก้นบุหรี่จากรถคันอื่นทำให้เกิดประกายไฟ และเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นได้ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่รถขึ้นเนินและใช้ความเร็วต่ำประมาณ 30-40 กม./ชม. และคนขับมารู้ตัวว่าไฟไหม้เมื่อมีคนขับรถอีกคันตะโกนบอก ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงคงต้องรอเจ้าหน้าที่กองวิทยาการฯ ที่จะเข้าตรวจสอบละเอียดในวันพรุ่งนี้ ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาคนขับรถเทรลเลอร์แต่อย่างใด
แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์นำเข้าและกลุ่มเล่นซูเปอร์คาร์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นค่อนข้างผิดปกติ เพราะเป็นการขนส่งรถครั้งเดียว รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ไปยังต่างจังหวัดจุดเดียวกัน ซึ่งลักษณะการขนส่งแบบนี้น้อยมากที่จะทำกัน ส่วนใหญ่การขนส่งรถจะป้องกันความเสี่ยง เช่น อุบัติรถคว่ำ เป็นต้น หากรถระดับต่ำกว่าสิบล้านบาทจะขนกันไม่เกิน 2-3 คัน แต่ถ้ามูลค่าสูงมากๆ จะแยกขนส่งเป็นคันมากกว่า
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่มาของรถถูกต้องแค่ไหน ซึ่งหากฟังจากในแวดวงที่พูดอยู่ขณะนี้ อาจจะเป็นรถที่มีที่มาผิดปกติ อย่างการนำเข้าไม่ถูกต้อง ปลอมใบอนุญาตนำเข้าและตรวจสอบ หรือเป็นรถจดประกอบ และเตรียมนำไปจดทะเบียนต่างจังหวัด
“ปัญหาการเกิดไฟใหม้ครั้งนี้ น่าสังสัยว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือเกิดจากความตั้งใจ ไม่ว่าจะมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ หรือปัญหาระหว่างเจ้าของรถ กับคู่กรณีที่เป็นอดีตลูกค้า จากการหลอกหรือโกงกันมาก่อน เพราะผู้ซื้อรถเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีฐานะ หรือมีอิทธิพล จึงเป็นไปได้ที่จะถูกแกล้ง ด้วยการทำให้เกิดไฟไหม้ และอีกอย่างตั้งใจเพื่อทำลายหลักฐานอะไรสักอย่าง รวมถึงการเอาประกันด้วย”
อนึ่งมีรายงานข่าวว่า รถหรูและซูเปอร์คาร์ที่ถูกไฟไหม้เป็นของผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตชื่อดังบนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งในแวดวงค่อนข้างมีเรื่องอื้อฉาว ทั้งเรื่องเวียนทะเบียน และย้อมแม้วรถ จนเกิดปัญหากับลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงนายทหารและถูกยิงจนต้องหนีไประยะหนึ่ง ปัจจุบันกลับมาทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรูและซูเปอร์คาร์อีกครั้ง ภายใต้ชื่อใหม่ แต่ยังมีอิงกับชื่อเก่าอยู่เหมือนเดิม ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าของเกรย์มาร์เก็ตรายนี้ ยังมีคดียกพวกควงปืนทวงรถมาแล้วด้วย