บุรีรัมย์- เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และเครือข่าย ปชช.อาสาปกป้องแผ่นดิน 4 จังหวัดอีสาน รวมตัวประกาศแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภา หรือลาออก ชี้บริหารล้มเหลว ทำประเทศสุ่มเสี่ยงสูญเสียดินแดนให้กัมพูชา พร้อมเคลื่อนขบวนรณรงค์ และแจกแผ่นพับทั่วเมือง ปลุกกระแส ปชช. ลุกฮือต่อสู้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย
เมื่อเวลา 11.00 น. ;yoouh (20 พ.ค.) เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และเครือข่ายประชาชนอาสาปกป้องแผ่นดิน 4 จังหวัดอีสาน มี จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ จ.นครราชสีมา กว่า 100 คน นำโดย นายปราโมทย์ หอยมุข รองประธานกลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณสวนรมย์บุรี 200 ปี ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อออกแถลงการณ์และประกาศจุดยืนเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุบสภา หรือลาออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ ได้กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศล้มเหลว ทำให้ไทยสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสียดินแดนรอบประสาทพระวิหาร และตลอดแนวชายไทย 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่มีปัญหาพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ต้องตกเป็นของประเทศกัมพูชา เพราะเนื่องจากนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่จริงใจที่จะต่อสู้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย เช่น รัฐบาลไม่มีความพยายาม หรือนโยบายที่จะผลักดันขับไล่ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และทำกินในเขตแดนของไทย ทั้งไม่เคยชี้แจงต่อศาลโลกว่าไทยได้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกฯ แล้ว ดังนั้น ไทยจึงไม่จำเป็นจะต้องยอมรับคำตัดสินใดๆ ของศาลโลก
จากนั้นกลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และเครือข่ายประชาชนอาสาปกป้องแผ่นดินได้เคลื่อนขบวนรถยนต์ไปตามถนนสายต่างๆ รอบเขตเทศบาลเมือง เพื่อรณรงค์เชิญชวน พร้อมแจกแผ่นพับปลุกกระแสให้ประชาชนร่วมกันลุกขึ้นมาต่อสู้ปกป้องผืนแผ่นไทยไม่ให้ตกเป็นของกัมพูชาร่วมกันอีกด้วย
นางสำเนียง สภัณพจน์ กรรมการเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก กล่าวว่า การออกมารวมพลังกันในครั้งนี้ เพื่อเป็นการประกาศจุดยืนเรียกร้องให้นายกรัฐมนรีลาออกจากตำแหน่ง เพราะบริหารประเทศล้มเหลว ทำให้ไทยต้องสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสียดินแดนให้แก่ประเทศกัมพูชา ซึ่งหลังจากนี้ ทางเครือข่ายก็จะมีการเคลื่อนไหวเปิดเวทีกดดันอย่างต่อเนื่องด้วย
