บุรีรัมย์ - เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย และ ปชช.อาสาปกป้องแผ่นดินไทย ปลุกพลังรักชาติในวันวาเลนไทน์ เคลื่อนขบวนรณรงค์ทั่วเมืองบุรีรัมย์ เชิญชวนลงชื่อคัดค้านอำนาจศาลโลกกรณีคดี “ปราสาทพระวิหาร” เผยเป้าหมาย 3 ล้านรายชื่อ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ปกป้องอธิปไตยไทย ไม่ยอมเสียดินแดนให้เขมร
วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก และเครือข่ายประชาชนอาสาปกป้องแผ่นดินไทย 7 จังหวัด ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว จันทบุรี และตราด รวมตัวกันที่บริเวณสวนรมย์บุรี เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อแสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย ก่อนเคลื่อนขบวนออกรณรงค์ไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองบุรีรัมย์ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้าน ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก กรณีคดีตีความคำพิพากษาคดีประสาทพระวิหาร ปี 2505 ตามคำร้องของฝ่ายกัมพูชา ที่ศาลจะพิจารณาในเดือนเมษายนนี้
ทั้งนี้ การเลือกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันลาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ เพื่อต้องการให้ชาวบุรีรัมย์และประชาชนไทยทั้งประเทศได้แสดงถึงพลังของความรักชาติรักแผ่นดินไทยมากกว่าสิ่งอื่นใด โดยการลุกขึ้นมาปกป้องผืนแผ่นดินไทย ทั้งพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 3,000 ไร่ รอบปราสาทพระวิหาร และดินแดนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อีกกว่า 1.8 ล้านไร่ ไม่ให้ตกเป็นของกัมพูชา โดยมีเป้าหมายจะล่ารายชื่อประชาชนให้ได้ 3 ล้านรายชื่อ เพื่อนำไปยื่นต่อศาลโลกในเดือนเมษายนนี้ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่าประชาชนไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่
นายวีรพล โสภา กรรมการเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ในครั้งนี้เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนชาวบุรีรัมย์ได้ร่วมกันลงชื่อคัดค้านอำนาจศาลโลก และคำตัดสินใดๆ เพราะประเทศไทยได้ลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของศาลโลกตั้งนานแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาเป็นเช่นไรก็ไม่จำเป็นจะต้องยอมรับ แต่หากศาลโลกตัดสินให้พื้นที่พิพาทดังกล่าวตกเป็นของกัมพูชา เชื่อว่าจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชา และอาจนำไปสู่ภาวะสงครามในอนาคต