บุรีรัมย์- แกนนำเครือข่ายปกป้องแผ่นดินไทย จ.บุรีรัมย์และสุรินทร์ ร่วมถกแนวทางเคลื่อนไหวค้านอำนาจศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารและทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม.ไม่ให้ตกเป็นของเขมร จี้รัฐบาล-กองทัพบกเร่งดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้สูญเสียดินแดน พร้อมปลุกปชช.รวมพลังลุกขึ้นสู้ปกป้องอธิปไตยของไทย
วันนี้( 14 ม.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก)ใน จ.บุรีรัมย์และ จ.สุรินทร์ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บ้านพักของ นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว. บุรีรัมย์ ในเขตเทศบาลตำบลประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อหารือถึงแนวทางการรวมพลังกับกลุ่มต่างๆ ในการเคลื่อนไหวคัดค้านอำนาจศาลโลกคดีพิพาทปราสาทพระวิหาร และการเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทยบริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) รอบปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ซึ่งศาลโลกจะเปิดให้ไทยและกัมพูชาชี้แจงด้วยวาจาครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 - 19 เม.ย.2556 ก่อนจะตัดสินคดีภายในปีนี้
อีกทั้ง ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาล และทางกองทัพบก ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ ได้เร่งดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ไทยต้องสูญเสียดินแดนรอบปราสาทพระวิหารให้กับกัมพูชา
ทั้งนี้ ทางแกนนำเครือข่าย นำโดย ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญจากนักวิจัยสถาบันไทยคดีศึกษา จะเดินทางเข้ายื่นฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ฐานความผิด “นำข้อมูลอันเป็นเท็จกรณีไทย-กัมพูชาต่อสาธารณชน” ตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.การนำข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งกล่าวโทษทางอาญาฐานกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 , 120 ด้วย
นพ.ประทีป ตลับทอง ประธานเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก) กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางรัฐบาล และกองทัพบก ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติอย่างจริงจัง ดั้งนั้นในฐานะประชาชนคนไทย จึงต้องรวมพลังกันลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ไม่ให้ตกเป็นของกัมพูชา
“ขอเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดินทั้งประเทศ ได้ร่วมกันลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างพร้อมเพรียงกันด้วย” นพ.ประทีป กล่าว