“ช่องสายตะกู” บุรีรัมย์ยังค้าขายปกติ ไม่หวั่นกระแสพิพาท “เขาพระวิหาร”

บุรีรัมย์ - ด่านการค้าชายแดน “ช่องสายตะกู” บุรีรัมย์ ประชาชนไทย-กัมพูชายังข้ามไปมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าตามปกติ ไม่ตื่นตระหนกกระแสพิพาท “เขาพระวิหาร” ขณะพ่อค้าเผยไม่อยากให้รุนแรงถึงขั้นปะทะ หวั่นกระทบวิถีชีวิต

วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดเป็นจุดซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อมนุษยธรรมทุกวันศุกร์ และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. ยังมีประชาชนทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาข้ามไปมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันตามปกติ โดยไม่หวาดกลัวหรือตื่นตระหนกกับกระแสที่มีหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านอำนาจศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร และการเรียกร้องทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านกรวด ยังคงมีการตรวจตราดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งที่บริเวณช่องสายตะกู และตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด

ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ และฝั่ง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ขณะนี้ยังคงเป็นปกติและไม่มีการนำกำลังทหารเข้ามาประชิดชายแดนแต่อย่างใด

ด้านนายจารุศักดิ์ สุนาพรหม อายุ 44 ปี พ่อค้าชาวไทยที่นำสินค้าไปวางขายบริเวณช่องสายตะกู บอกว่า ตนและภรรยาได้นำสินค้าประเภทพริก หอม กระเทียม มาวางขายทุกสัปดาห์ ลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชามากกว่า

สำหรับกระแสที่มีหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีความขัดแย้งเขาพระวิหารนั้นไม่ได้สร้างความตื่นตระหนก เพราะคิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือเกิดความรุนแรง และส่วนตัวก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งหรือเหตุการณ์รุนแรงจนถึงขั้นปะทะกัน เพราะจะส่งกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนทั้งสองฝั่งเหมือนกับครั้งที่ผ่านมาที่มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายหลายราย