xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว ! แก๊งงัดตู้ ATM กรุงไทย ฉกเงินร่วม 5 ล้าน ได้ผู้ต้อง 4 ราย หนีไป 2 (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.เชิด  ชูเวช ผบช.ภ. 3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวผู้ต้องหาแก๊งโจรกรรมเงินตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ไปร่วม 5 ล้านบาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ วันนี้ ( 17 พ.ค.)
ศรีสะเกษ - ชุดสืบสวน ตร.ภาค 3 รวบแก๊งงัดตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงไทย ข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ฉกเงินไปร่วม 5 ล้าน ได้ผู้ต้องหาชาย-หญิง 4 คน ยอมรับสารภาพ เผยถูกบุกจับกุมได้ที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สระแก้ว พร้อมของกลางอื้อ และยังหลบหนีไปได้ 2 คน ผบช.ภ.3 สั่งเร่งไล่ล่า

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข้างที่ว่าการ อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย จำกัด พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำตัวผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ได้เงินไป 4.9 ล้านบาท ที่ถูกจับกุมได้ จำนวน 4 คน มาทำแผนประกอบคำสารภาพ

ประกอบด้วย นายวารุต ทองหยาด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 15 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นางจีรภา สมคะเนย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 17 ต.เฉลียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายพิทักษ์ หรือบ่าว หับลั่น อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 3 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี และ น.ส.จันทร์เพ็ญ แสนทวีสุข อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 15 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร

โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้โจรกรรมเงินไปจากตู้เอทีเอ็มไปจริง และได้แสดงท่าทางในการงัดตู้เอทีเอ็มประกอบคำสารภาพทุกขั้นตอน

จากนั้นผู้ต้องหาได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่นำกล่องเงิน จำนวน 4 กล่อง ไปทิ้งไว้ในป่าละเมาะตรงข้ามกับที่ว่าการ อ.เบญจลักษณ์ และไปชี้จุดที่นำถังแก๊ส และอุปกรณ์ในการโจรกรรมไปทิ้งลงที่อ่างเก็บน้ำห้วยตามาย ห่างจากบริเวณสี่แยกบ้านจาน ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ ประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) และได้แบ่งเงินกัน โดย นายวารุต กับ นางจีรภา ได้ส่วนแบ่ง 1,200,000 บาท นายพิทักษ์กับ น.ส.จันทร์เพ็ญ ได้ส่วนแบ่ง 1,200,000 บาท ส่วนนายพัน และนายมล ได้ส่วนแบ่งคนละ 1,200,000 บาท จากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนีไป

ต่อมา นายวารุต และนางจีรภา ได้ถูกตรวจยึดเงินไว้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสีคิ้ว จ.นครราชสีมา จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,200,000 บาท ส่วน นายพิทักษ์ และ น.ส.จันทร์เพ็ญ ได้นำเงินส่วนแบ่งไปซื้อทองรูปพรรณหนัก 33 บาท ชุดสืบสวนตรวจยึดไว้ได้ 22 บาท 1 สลึง ทองที่เหลือหนัก 11 บาท นายพิทักษ์ และ น.ส.จันจทร์เพ็ญ ได้นำทองไปจำนำไว้ที่ร้านทองเพชรสุพรรณ อ.หลังสวน จ.ชุมพร และฝากธนาคารในบัญชีเงินฝากของ น.ส.จันทร์เพ็ญ จำนวน 600,000 บาท ส่วนเงินสดที่เหลือเป็นส่วนแบ่งของ นายพัน และ นายมล ซึ่งตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไปแล้ว

ทั้งนี้ นายวารุต กับนางจีรภา ถูกตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จับกุมได้ที่ห้องพักจินเจินรีสอร์ท อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ส่วน นายพิทักษ์ และ น.ส.จันทร์เพ็ญ ถูกตำรวจจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว โดยยังคงมีผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมไปได้ 2 คน คือ นายพัน และนายมล ยังไม่ทราบชื่อจริง นามสกุลจริง

พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผบช.ภ.3 กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุการณ์โจรกรรมตู้เอทีเอ็มเงินถูกลักไป จำนวน 4.9 ล้านบาท ตนได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้จัดตั้งชุดไล่ล่าแก๊งโจรกลุ่มนี้ และสามารถจับกุมได้ทั้ง 4 คน ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนได้ให้การรับสารภาพว่า ได้โจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็มไปจริง โดยมีของกลางประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บบ 1156 ชุมพร จำนวน 1 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน กน 8267 สุราษฏร์ธานี จำนวน 1 คัน ทองรูปพรรณ จำนวน 9 รายการ น้ำหนักรวม 22 บาท 1 สลึง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 2 เล่ม ยอดเงินทั้งสิ้น 599,200 บาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง

เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาว่า“ร่วมกันลักทรัพย์” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ตามไล่ล่า นายพัน และ นายมล ที่กำลังหลบหนีซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้ พล.ต.ท.เชิด กล่าว

คลิกเพื่อชมคลิป:













กำลังโหลดความคิดเห็น