รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมทำแผนรักษาความปลอดภัยและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล

ศูนย์ข่าวศรีราชา- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนรักษาความปลอดภัย และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล หลังเกิดปัญหาบ่อยครั้ง พร้อมให้ จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่นำร่อง ก่อนเสนอ ครม.ผลักดันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม

วันนี้ (16 พ.ค.) ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จังหวัดชลบุรี อำเภอบางละมุง เมืองพัทยา สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสังกัดต่างๆ เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับแผนการรักษาความปลอดภัย และช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุอุบัติภัยทางทะเลบ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นการเสื่อมเสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ในวันนี้เป็นการรับฟังสภาพปัญหาของหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับขั้นตอนของการปฏิบัติงานในด้านการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการปรับปรุง และบูรณาการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ทั้งปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อจำกัดในการติดตั้งระบบ GPS สำหรับเรือที่เป็นพาณิชย์ทุกลำ โดยเฉพาะเรือเร็ว และเรือสปีดโบต เพื่อบอกพิกัดตำแหน่งที่อยู่และความเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา ถือเป็นความยากลำบากในการบังคับใช้ โดยเสนอให้มีการออกเป็นกฎกระทรวง เพื่อความสะดวกต่อการตรวจสอบและการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น รวมไปถึงจัดให้มีการประกันภัยภาคบังคับด้วย

ขณะที่ในส่วนของหน่วยงานในการดูแลความปลอดภัยทางทะเล เช่น กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ หรือเมืองพัทยานั้นพบว่า ที่ผ่านมายังมีปัญหาในเรื่องของบุคลากร อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการกู้ชีพที่ยังประสบปัญหาการขาดแคลนอยู่มาก ทำให้การกู้ภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก และล่าช้า จึงเสนอให้กรมเจ้าท่าไปพิจารณาร่างกฎหมายในการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อความสะดวกในการสนับสนุนงบประมาณ และบุคลากรในอนาคต

นายสมศักย์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามแผนการดังกล่าวเป็นเพียงการเสนอแนะแนวทางที่ยังไม่สามารถปฏิบัติให้ลุล่วงได้ จึงมีการสั่งการให้จังหวัดชลบุรี ไปบูรณาการจัดการประชุมร่วมเพื่อจัดทำแผนแม่บทในด้านการรักษาความปลอดภัย และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้แล้วเสร็จภายใน 2 อาทิตย์ เพื่อจะได้นำแผนที่ได้ไปเสนอตรงต่อ ครม.พิจารณาอย่างเร่งด่วน และจะต้องเห็นเป็นรูปธรรมภายใน 1 เดือน จากนั้นจะได้นำมาดำเนินการให้เป็นโครงการนำร่องเพื่อเป็นโครงการต้นแบบให้แก่พื้นที่อื่นต่อไป