พระนครศรีอยุธยา - นายอำเภอท่าเรือ พร้อมนายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ และคณะ รุดเยี่ยมเหยื่อบาดเจ็บสะพาน 200 ปีมรณะถึงบ้านหลังกลับจากโรงพยาบาล แต่อาการยังไม่หายดี ขณะที่คณะวิศวกรรมจาก มธ. และวิศวกรรมสถานฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบสลิงขึงสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักระหว่างวัดไก่จ้นกับวัดสะตือ บ่ายวันนี้ หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ด้านรองผู้ว่าฯ อยุธยา ตรวจสอบกระเช้าลอยฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาวัดดังในบางปะอิน ยังไม่พบความชำรุด
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสะพาน 200 ปี ซึ่งเป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสัก ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่มเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากว่า นายวิฑิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานคณะกรรมการช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์สะพานถล่ม พร้อมด้วย นางศศิธร ปิ่นนิกร นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 280 หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยม นางดวงแข สุขนิรันคร์ อายุ 34 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุสะพานถล่ม และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลท่าเรือ และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีอาการเจ็บปวดที่ซี่โครงขวา และหายใจเจ็บ โดยได้ประสานกับทางโรงพยาบาลท่าเรือ เพื่อให้จัดแพทย์เฉพาะทางตรวจรักษาเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วนอาการของนายนเรศ สุขนิรันดร์ สามีของนางดวงแข ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น เบื้องต้นทราบว่า นายนเรศ สุขนิรันดร์ ยังมีอาการบาดเจ็บที่สะโพก และยังมีอาการทางด้านหัวใจด้วย
นายวิฑิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุได้ดูแลผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตตามระเบียบอย่างเต็มที่ โดยในวันที่ 5 พ.ค.นี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพ ด.ญ.พิริยาภรณ์ เสือสมิง อายุ 10 ปี หลานสาวของนางดวงแข ที่เสียชีวิต
และในช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ค.) คณะวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะเดินทางมาตรวจสอบสภาพของสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักหน้าวัดไก่จ้น หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ ข้ามไปยังวัดสะตือ ซึ่งขณะนี้ทาง อบต.ท่าหลวง ได้สั่งปิดถาวรแล้ว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นดีด้วย เนื่องจากพบว่าขณะนี้มีการทรุดตัวของสะพานจนมองเห็นสายสลิงหย่อนได้ชัด
อีกทั้งในช่วงสร้างเสร็จใหม่ ยังพบว่ามีการหักโค่นของเสาสะพานลงมาทั้ง 2 ต้นในฝั่งของวัดไก่จ้น จนมองเห็นรอยต่อ ซึ่งหลังจากน้ำท่วมก็มีอาการสั่น หากเปิดไว้ก็ยังอาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งทางวิศวกรจะมาตรวจสอบก่อนทำการซ่อมตอ่ไป
ด้านนายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบกระเช้าลอยฟ้าที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารหน้าวัดนิเวศธรรมประวัติ หมู่ 1 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นระยะทาง 100 เมตร ซึ่งกระเช้านี้สร้างเมื่อปี 2509 รับผู้โดยสารเที่ยวละไม่เกิน 8 คน
นายทวี กล่าวว่า ได้ออกตรวจสอบความปลอดภัยของกระเช้าที่มีอยู่ใน อ.บางปะอิน ถึง 2 แห่ง เป็นทางสัญจรของประชาชน ความเสี่ยง การชำรุด ถ้าพบก็จะปิดซ่อมทันที แต่ไม่พบความบกพร่องทางจังหวัดก็จะส่งวิศวกรมาช่วยตรวจสอบเป็นระยะๆ
ทางด้านพระครูวิมลธรรมธารี (วิโรจน์) ธ. เลขานุการเจ้าอาวาส กล่าวว่า กระเช้ารับผู้โดยสารความกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร ใช้สลิงด้านละ 2 เส้นสำหรับลากจูง มีระบบไฟฟ้าบังคับจะเปลี่ยนสลิงทุกๆ 6 เดือน ใช้งบประมาณ 100,000 บาท บริการตั้งแต่ 05.30-21.00 น. ของทุกวัน ส่วนค่าโดยสารแล้วแต่บริจาค
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสะพาน 200 ปี ซึ่งเป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสัก ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่มเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากว่า นายวิฑิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานคณะกรรมการช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์สะพานถล่ม พร้อมด้วย นางศศิธร ปิ่นนิกร นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 280 หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยม นางดวงแข สุขนิรันคร์ อายุ 34 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุสะพานถล่ม และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลท่าเรือ และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีอาการเจ็บปวดที่ซี่โครงขวา และหายใจเจ็บ โดยได้ประสานกับทางโรงพยาบาลท่าเรือ เพื่อให้จัดแพทย์เฉพาะทางตรวจรักษาเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วนอาการของนายนเรศ สุขนิรันดร์ สามีของนางดวงแข ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น เบื้องต้นทราบว่า นายนเรศ สุขนิรันดร์ ยังมีอาการบาดเจ็บที่สะโพก และยังมีอาการทางด้านหัวใจด้วย
นายวิฑิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุได้ดูแลผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตตามระเบียบอย่างเต็มที่ โดยในวันที่ 5 พ.ค.นี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพ ด.ญ.พิริยาภรณ์ เสือสมิง อายุ 10 ปี หลานสาวของนางดวงแข ที่เสียชีวิต
และในช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ค.) คณะวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะเดินทางมาตรวจสอบสภาพของสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักหน้าวัดไก่จ้น หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ ข้ามไปยังวัดสะตือ ซึ่งขณะนี้ทาง อบต.ท่าหลวง ได้สั่งปิดถาวรแล้ว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นดีด้วย เนื่องจากพบว่าขณะนี้มีการทรุดตัวของสะพานจนมองเห็นสายสลิงหย่อนได้ชัด
อีกทั้งในช่วงสร้างเสร็จใหม่ ยังพบว่ามีการหักโค่นของเสาสะพานลงมาทั้ง 2 ต้นในฝั่งของวัดไก่จ้น จนมองเห็นรอยต่อ ซึ่งหลังจากน้ำท่วมก็มีอาการสั่น หากเปิดไว้ก็ยังอาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งทางวิศวกรจะมาตรวจสอบก่อนทำการซ่อมตอ่ไป
ด้านนายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบกระเช้าลอยฟ้าที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารหน้าวัดนิเวศธรรมประวัติ หมู่ 1 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นระยะทาง 100 เมตร ซึ่งกระเช้านี้สร้างเมื่อปี 2509 รับผู้โดยสารเที่ยวละไม่เกิน 8 คน
นายทวี กล่าวว่า ได้ออกตรวจสอบความปลอดภัยของกระเช้าที่มีอยู่ใน อ.บางปะอิน ถึง 2 แห่ง เป็นทางสัญจรของประชาชน ความเสี่ยง การชำรุด ถ้าพบก็จะปิดซ่อมทันที แต่ไม่พบความบกพร่องทางจังหวัดก็จะส่งวิศวกรมาช่วยตรวจสอบเป็นระยะๆ
ทางด้านพระครูวิมลธรรมธารี (วิโรจน์) ธ. เลขานุการเจ้าอาวาส กล่าวว่า กระเช้ารับผู้โดยสารความกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร ใช้สลิงด้านละ 2 เส้นสำหรับลากจูง มีระบบไฟฟ้าบังคับจะเปลี่ยนสลิงทุกๆ 6 เดือน ใช้งบประมาณ 100,000 บาท บริการตั้งแต่ 05.30-21.00 น. ของทุกวัน ส่วนค่าโดยสารแล้วแต่บริจาค
