เพชรบุรี - ผู้ว่าฯ เพชรบุรีสั่ง “นอภ.แก่งกระจาน” ตรวจสอบเช็กข้อมูลความพร้อมเพื่อเตรียมยกระดับ “ตำบลป่าเต็ง” ขึ้นเป็น “กิ่งอำเภอป่าเด็ง” เพื่อเป็นพื้นที่พิเศษดูแลช้างป่า และเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างใกล้ชิด และทั่วถึง ส่วนกรณีสีประหลาดยังจะต้องรอการพิสูจน์เพื่อความชัดเจนก่อนฟันธงว่าเป็นช้างที่มีลักษณะพิเศษ หรือ “ช้างเผือก” จริงหรือไม่ ขณะที่ประชาชนจับตาดู “สีช้าง” ตามที่ปรากฏในคลิป พร้อมวิจารณ์ “ทำไมสีเปลี่ยนเวลาลงเล่นน้ำ”
คลิกเพื่อชมคลิป:
วันนี้ (25 เม.ย.) นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ นายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไปตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งขึ้นเป็นกิ่ง อ.ป่าเด็ง จ.เพชรบุรี เพื่อดูแลช้างป่าเป็นพิเศษ และยังสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างใกล้ชิด และทั่วถึง นอกจากนี้ ยังจะสามารถจัดอัตรากำลังเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย
ส่วนการติดตามช้างที่มีลักษณะพิเศษในขณะนี้เรายังไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นช้างเผือก หรือไม่ จนกว่าจะมีการพิสูจน์กันอย่างตามคชรักษ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในการพิสูจน์ว่าจะเป็นช้างเผือกหรือไม่ต้องมีขั้นตอน อย่างที่ทางราชการได้ทำขั้นตอนไว้ว่าดูคชรักษ์ 7 ประการ เป็นขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ช้างที่พบแม้ว่าจะมีสีประหลาดหรือสีเผือกก็ยังถือเป็นช้างป่าอยู่ ยังมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ การจะไปจับมา หรือทำอะไรลงไปต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังอยู่ในเขตอุทยานฯ อีก เพราะฉะนั้น การจะทำอะไรลงไปต้องระมัดระวังด้วย
“การที่เราจะพูดได้เต็มปากว่าเป็นช้างเผือกหรือไม่นั้นจะต้องมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจากสำนักพระราชวังมาดู และก็จะต้องดูรายละเอียด ใช้เวลาการดูระยะเวลาหลายเดือน บางทีอาจจะเป็นหลายปี ต้องดูทั้งกิริยามารยาท ในการกินอยู่หลับนอน ไม่ใช่ว่าแค่มีคุณลักษณะบางประการเป็นช้างเผือกได้ เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า การที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นช้างเผือกหรือไม่นั้น ต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากสำนักพระราชวังมาดู อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เราคงต้องดูแลช้างที่มีลักษณะพิเศษนี้ว่าจะเข้าข่ายหรือไม่” ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ยังกล่าวอีกว่า ขั้นตอนในการที่ชาวบ้านพบช้างไม่ว่าจะเป็นช้างหลง พลัดออกจากฝูงอยู่ในการครอบครองของชาวบ้าน ชาวบ้านต้องรายงานนายอำเภอ นายอำเภอรายงานผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ รายงานกระทรวงมหาดไทย แล้วกระทรวงมหาดไทย จะรายงานพระราชวัง เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องในการดำเนินการที่จะให้สำนักพระราชวังมาในการดูลักษณะช้างเผือกที่ถูกต้อง หลังจากการประชุมวันที่ 3 พ.ค.56 จะมีการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะความหวังดีแต่ก็เป็นการลัดขั้นตอน
ด้าน นายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เผยว่า เนื่องจากตำบลป่าเด็ง อยู่ห่างจากอำเภอแก่งกระจานมาก ใช้เวลาเดินทางแต่ละครั้งนานกว่า 1 ชั่วโมง เส้นทางที่สะดวกต้องใช้เส้นทางผ่านอำเภอท่ายาง แต่ถ้าใช้เส้นทางระยะสั้นก็ต้องผ่านอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำให้ชาวบ้านที่จะไปใช้บริการที่อำเภอต้องใช้เวลานาน ถ้าเราสามารถตั้งกิ่งอำเภอขึ้นมาได้จริง ก็จะให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้เลย เช่น จะทำบัตรประชาชน หรือทะเบียนราษฎรต่างๆ ก็ทำได้เลย รวมถึงยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น สถานีอนามัย และสถานีตำรวจที่จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตาม ตนต้องไปศึกษาดูจำนวนประชากรในพื้นที่ และความเหมาะสมอื่นๆ ก่อนที่จะรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
นายอรรถพล แจ้งเรือง นายก อบต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เผยว่า ดีใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีให้ความสนใจเรื่องนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะว่าเราอยู่ชายแดน หากมีการผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริงๆ ผมก็ยินดีต้อนรับ และยินดีกับชาวตำบลป่าเด็งด้วย การเดินทางติดต่อราชการจะได้สะดวกยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าหลังจากที่มีผู้ถ่ายภาพช้างป่าในแก่งกระจานขณะลงมาเล่นน้ำที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 โดยช้างป่าตัวดังกล่าวมีสีประหลาดกว่าช้างป่าตัวอื่นๆ ในฝูง กระทั่งมีการนำภาพช้างตัวดังกล่าวออกมาเผยแพร่ และระบุว่าน่าจะเป็นช้างเผือก ขณะเดียวกัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้นำเรื่องเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และแจ้งให้เลขาธิการสำนักพระราชวังเข้ามาตรวจสอบนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการพูดถึงภาพวิดีโอช้างป่าสีประหลาดตัวดังกล่าวที่ถูกนำเสนอทางสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งมีคลิปวิดีโอทางยูทิวบ์ อีก 1 ชุด ที่พบว่าเวลาช้างป่าสีประหลาดตัวดังกล่าวช่วงที่ลงเล่นน้ำพบว่าบริเวณที่ถูกน้ำจะมีสีดำ ส่วนบริเวณหลังด้านบนที่ไม่ถูกน้ำยังมีสีขาวเหมือนก่อนลงน้ำ อีกทั้งเมื่อขึ้นมาบนฝั่งสีประหลาดตามลำตัวของช้างหายไปกลายเป็นสีดำครึ่งตัว ส่วนบริเวณกระดูกสันหลัง และใบหูยังเป็นสีประหลาดอยู่เช่นเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอก็พบว่า เป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดจริง และภาพวิดีโอถูกถ่ายไว้ในวันเวลาเดียวกันกับช้างสีประหลาดตามที่เป็นข่าวโดยนักข่าวท้องถิ่นเช่นกัน ตรวจสอบพบว่า ช้างสีประหลาดที่ถูกระบุว่าอาจเป็นช้างเผือกนั้นเดินลงมาเล่นน้ำโดยมีช้างตัวใหญ่ยืนอยู่บนฝั่ง ส่วนช้างสีประหลาดยืนแช่อยู่ในน้ำ แต่ตามลำตัวช้างกลายเป็นสีดำ รวมถึงหลังจากที่ช้างสีประหลาดตัวดังกล่าวตามพรรคพวกขึ้นมาบนฝั่งสีก็เปลี่ยนไป
ต่อมา นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวถึงกรณีคลิปภาพช้างสีประหลาดที่ลงเล่นน้ำ และพบว่าบริเวณที่ถูกน้ำเป็นกลายสีดำ ส่วนบริเวณที่ไม่ถูกน้ำยังเป็นสีขาวอยู่ว่า เบื้องต้น ต้องขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าจะตัวเดียวกันหรือไม่ และหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย แต่ถึงอย่างไรดังที่กล่าวมาแล้วว่าช้างเผือกไม่จำเป็นต้องมีสีขาวเสมอไป
คลิกเพื่อชมคลิป:
วันนี้ (25 เม.ย.) นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ นายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไปตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งขึ้นเป็นกิ่ง อ.ป่าเด็ง จ.เพชรบุรี เพื่อดูแลช้างป่าเป็นพิเศษ และยังสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างใกล้ชิด และทั่วถึง นอกจากนี้ ยังจะสามารถจัดอัตรากำลังเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย
ส่วนการติดตามช้างที่มีลักษณะพิเศษในขณะนี้เรายังไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นช้างเผือก หรือไม่ จนกว่าจะมีการพิสูจน์กันอย่างตามคชรักษ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในการพิสูจน์ว่าจะเป็นช้างเผือกหรือไม่ต้องมีขั้นตอน อย่างที่ทางราชการได้ทำขั้นตอนไว้ว่าดูคชรักษ์ 7 ประการ เป็นขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ช้างที่พบแม้ว่าจะมีสีประหลาดหรือสีเผือกก็ยังถือเป็นช้างป่าอยู่ ยังมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ การจะไปจับมา หรือทำอะไรลงไปต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังอยู่ในเขตอุทยานฯ อีก เพราะฉะนั้น การจะทำอะไรลงไปต้องระมัดระวังด้วย
“การที่เราจะพูดได้เต็มปากว่าเป็นช้างเผือกหรือไม่นั้นจะต้องมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจากสำนักพระราชวังมาดู และก็จะต้องดูรายละเอียด ใช้เวลาการดูระยะเวลาหลายเดือน บางทีอาจจะเป็นหลายปี ต้องดูทั้งกิริยามารยาท ในการกินอยู่หลับนอน ไม่ใช่ว่าแค่มีคุณลักษณะบางประการเป็นช้างเผือกได้ เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า การที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นช้างเผือกหรือไม่นั้น ต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากสำนักพระราชวังมาดู อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เราคงต้องดูแลช้างที่มีลักษณะพิเศษนี้ว่าจะเข้าข่ายหรือไม่” ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ยังกล่าวอีกว่า ขั้นตอนในการที่ชาวบ้านพบช้างไม่ว่าจะเป็นช้างหลง พลัดออกจากฝูงอยู่ในการครอบครองของชาวบ้าน ชาวบ้านต้องรายงานนายอำเภอ นายอำเภอรายงานผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ รายงานกระทรวงมหาดไทย แล้วกระทรวงมหาดไทย จะรายงานพระราชวัง เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องในการดำเนินการที่จะให้สำนักพระราชวังมาในการดูลักษณะช้างเผือกที่ถูกต้อง หลังจากการประชุมวันที่ 3 พ.ค.56 จะมีการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะความหวังดีแต่ก็เป็นการลัดขั้นตอน
ด้าน นายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เผยว่า เนื่องจากตำบลป่าเด็ง อยู่ห่างจากอำเภอแก่งกระจานมาก ใช้เวลาเดินทางแต่ละครั้งนานกว่า 1 ชั่วโมง เส้นทางที่สะดวกต้องใช้เส้นทางผ่านอำเภอท่ายาง แต่ถ้าใช้เส้นทางระยะสั้นก็ต้องผ่านอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำให้ชาวบ้านที่จะไปใช้บริการที่อำเภอต้องใช้เวลานาน ถ้าเราสามารถตั้งกิ่งอำเภอขึ้นมาได้จริง ก็จะให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้เลย เช่น จะทำบัตรประชาชน หรือทะเบียนราษฎรต่างๆ ก็ทำได้เลย รวมถึงยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น สถานีอนามัย และสถานีตำรวจที่จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตาม ตนต้องไปศึกษาดูจำนวนประชากรในพื้นที่ และความเหมาะสมอื่นๆ ก่อนที่จะรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
นายอรรถพล แจ้งเรือง นายก อบต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เผยว่า ดีใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีให้ความสนใจเรื่องนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะว่าเราอยู่ชายแดน หากมีการผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริงๆ ผมก็ยินดีต้อนรับ และยินดีกับชาวตำบลป่าเด็งด้วย การเดินทางติดต่อราชการจะได้สะดวกยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าหลังจากที่มีผู้ถ่ายภาพช้างป่าในแก่งกระจานขณะลงมาเล่นน้ำที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 โดยช้างป่าตัวดังกล่าวมีสีประหลาดกว่าช้างป่าตัวอื่นๆ ในฝูง กระทั่งมีการนำภาพช้างตัวดังกล่าวออกมาเผยแพร่ และระบุว่าน่าจะเป็นช้างเผือก ขณะเดียวกัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้นำเรื่องเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และแจ้งให้เลขาธิการสำนักพระราชวังเข้ามาตรวจสอบนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการพูดถึงภาพวิดีโอช้างป่าสีประหลาดตัวดังกล่าวที่ถูกนำเสนอทางสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งมีคลิปวิดีโอทางยูทิวบ์ อีก 1 ชุด ที่พบว่าเวลาช้างป่าสีประหลาดตัวดังกล่าวช่วงที่ลงเล่นน้ำพบว่าบริเวณที่ถูกน้ำจะมีสีดำ ส่วนบริเวณหลังด้านบนที่ไม่ถูกน้ำยังมีสีขาวเหมือนก่อนลงน้ำ อีกทั้งเมื่อขึ้นมาบนฝั่งสีประหลาดตามลำตัวของช้างหายไปกลายเป็นสีดำครึ่งตัว ส่วนบริเวณกระดูกสันหลัง และใบหูยังเป็นสีประหลาดอยู่เช่นเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอก็พบว่า เป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดจริง และภาพวิดีโอถูกถ่ายไว้ในวันเวลาเดียวกันกับช้างสีประหลาดตามที่เป็นข่าวโดยนักข่าวท้องถิ่นเช่นกัน ตรวจสอบพบว่า ช้างสีประหลาดที่ถูกระบุว่าอาจเป็นช้างเผือกนั้นเดินลงมาเล่นน้ำโดยมีช้างตัวใหญ่ยืนอยู่บนฝั่ง ส่วนช้างสีประหลาดยืนแช่อยู่ในน้ำ แต่ตามลำตัวช้างกลายเป็นสีดำ รวมถึงหลังจากที่ช้างสีประหลาดตัวดังกล่าวตามพรรคพวกขึ้นมาบนฝั่งสีก็เปลี่ยนไป
ต่อมา นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวถึงกรณีคลิปภาพช้างสีประหลาดที่ลงเล่นน้ำ และพบว่าบริเวณที่ถูกน้ำเป็นกลายสีดำ ส่วนบริเวณที่ไม่ถูกน้ำยังเป็นสีขาวอยู่ว่า เบื้องต้น ต้องขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าจะตัวเดียวกันหรือไม่ และหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย แต่ถึงอย่างไรดังที่กล่าวมาแล้วว่าช้างเผือกไม่จำเป็นต้องมีสีขาวเสมอไป
