เพชรบุรี - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มพื้นที่ป่าแก่งกระจาน หลังช่างภาพสื่อท้องถิ่นถ่ายภาพพบช้างที่มีลักษณะเป็นช้างสำคัญ หรือ "ช้างเผือก"ได้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ต.ป่าเด็ง เพื่อพิทักษ์ช้าง ก่อนที่ทางสำนักพระราชวังจะส่ง จนท.ผู้เชี่ยวชาญลงมาทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งว่าถูกต้องตามลักษณะช้างสำคัญ ขณะที่เขจ้าของภาพเผยเบื้องหลังวันที่ถ่ายภาพได้
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (22เม.ย.56) ที่อ่างเก็บน้ำกะหร่าง3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รวม 60 นายได้สนธิกำลังเฝ้าระวังช้างที่มีลักษณะเป้นช้างสำคัญ คือ ช้างเผือก หลังจากทีมีผู้พบเห็นและสามารถบันทึกภาพช้างดังกล่าวเอาไว้ได้ ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมีการตั้งเต้นท์สนามชั่วคราวบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ และแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าบางส่วนเพื่อการออกลาดตระเวนในจุดอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ไปถึงวันที่ 1 พ.ค.56
ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้ท่านอธิบดีฯ ทราบแล้วหลังจากมีผู้พบเห็นและบันทึกภาพช้างที่มีลักษณะเป็นช้างสำคัญ ได้เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และขณะนี้ตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิทักษป่าเข้ามาเสริมกำลังในพื้นที่เพื่อกำลังเฝ้าระวังช้างไม่ให้ได้รับอันตราย
"ในส่วนภาพถ่ายที่มีสื่อท้องถิ่นถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งตรงกับลักษณะที่สายข่าวแจ้งมานั้น เบื้องต้นตนได้ส่งเรื่องถึงเลขาสำนักพระราชวังให้มาตรวจดูคชรักษ์ว่าถูกต้องตามลักษณะช้างสำคัญหรือเปล่า หากตรงจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับทางเลขาสำนักพระราชวัง โดยอุทยานฯ มีหน้าที่คุ้มครองให้ช้างปลอดภัยเท่านั้น และวันนี้ ผมก็ได้เข้าพบนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปเสริมในการป้องกันเหตุก่อนที่ทางสำนักพระราชวังจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญลงมาทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งแล้ว"
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักถ่ายภาพที่ต้องการเข้ามาดูด้วยตาของตนเอง ขณะนี้ทางอุทยานยังไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ดังกล่าวเนื่องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับช้าง แต่ในอนาคตอาจมีการให้เข้าชมได้
ด้านนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ ได้เข้ามารายงานข้อมูลตนเองในเรื่องการพบช้างที่มีลักษณะต้องตามคชลักษณ์ ซึ่งเบื้องต้นได้มีการส่งหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขาธิการพระราชวังแล้วหากพบว่าเข้าคชลักษณะช้างสำคัญ หรือช้างเผือก จริง จะถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอผู้เชี่ยวชาญลงมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในระหว่างนี้ตนจะได้หารือและขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารเฉพาะกิจชุดทัพพระยาเสือ และอีกหลายๆ หน่วยเข้าไปช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ และข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับรายงานตนจะส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและดำเนินการเร่งด่วนต่อไป
ทางด้านนายอภิชาติ พวงน้อย ซึ่งเป็นผู้บันทึกภาพช้างที่มีลักษณะเป็นช้างสำคัญได้ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้เข้าไปถ่ายภาพโขลงช้างลงกินน้ำในอ่างเก็บน้ำกะหร่างสาม หลังไปทำรายงานข่าวพบซากช้างป่าเสียชีวิตพร้อมกับคณะสื่อมวลชน ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาจังหวะที่บันทึกภาพยังไม่พบความผิดปกติ เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว แต่ต่อมาเมื่อกลับออกมา และนำภาพมาดูจึงเห็นความแตกต่างและมอบภาพให้นายชัวยวัฒน์ ทำการตรวจสอบเพื่อความแน่ชัด และหากพบว่าเป็นจริงก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจ.เพชรบุรีได้เคยถวายช้างสำคัญไปแล้ว
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (22เม.ย.56) ที่อ่างเก็บน้ำกะหร่าง3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รวม 60 นายได้สนธิกำลังเฝ้าระวังช้างที่มีลักษณะเป้นช้างสำคัญ คือ ช้างเผือก หลังจากทีมีผู้พบเห็นและสามารถบันทึกภาพช้างดังกล่าวเอาไว้ได้ ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมีการตั้งเต้นท์สนามชั่วคราวบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ และแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าบางส่วนเพื่อการออกลาดตระเวนในจุดอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ไปถึงวันที่ 1 พ.ค.56
ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้ท่านอธิบดีฯ ทราบแล้วหลังจากมีผู้พบเห็นและบันทึกภาพช้างที่มีลักษณะเป็นช้างสำคัญ ได้เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และขณะนี้ตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิทักษป่าเข้ามาเสริมกำลังในพื้นที่เพื่อกำลังเฝ้าระวังช้างไม่ให้ได้รับอันตราย
"ในส่วนภาพถ่ายที่มีสื่อท้องถิ่นถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งตรงกับลักษณะที่สายข่าวแจ้งมานั้น เบื้องต้นตนได้ส่งเรื่องถึงเลขาสำนักพระราชวังให้มาตรวจดูคชรักษ์ว่าถูกต้องตามลักษณะช้างสำคัญหรือเปล่า หากตรงจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับทางเลขาสำนักพระราชวัง โดยอุทยานฯ มีหน้าที่คุ้มครองให้ช้างปลอดภัยเท่านั้น และวันนี้ ผมก็ได้เข้าพบนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปเสริมในการป้องกันเหตุก่อนที่ทางสำนักพระราชวังจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญลงมาทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งแล้ว"
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักถ่ายภาพที่ต้องการเข้ามาดูด้วยตาของตนเอง ขณะนี้ทางอุทยานยังไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ดังกล่าวเนื่องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับช้าง แต่ในอนาคตอาจมีการให้เข้าชมได้
ด้านนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ ได้เข้ามารายงานข้อมูลตนเองในเรื่องการพบช้างที่มีลักษณะต้องตามคชลักษณ์ ซึ่งเบื้องต้นได้มีการส่งหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขาธิการพระราชวังแล้วหากพบว่าเข้าคชลักษณะช้างสำคัญ หรือช้างเผือก จริง จะถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอผู้เชี่ยวชาญลงมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในระหว่างนี้ตนจะได้หารือและขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารเฉพาะกิจชุดทัพพระยาเสือ และอีกหลายๆ หน่วยเข้าไปช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ และข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับรายงานตนจะส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและดำเนินการเร่งด่วนต่อไป
ทางด้านนายอภิชาติ พวงน้อย ซึ่งเป็นผู้บันทึกภาพช้างที่มีลักษณะเป็นช้างสำคัญได้ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้เข้าไปถ่ายภาพโขลงช้างลงกินน้ำในอ่างเก็บน้ำกะหร่างสาม หลังไปทำรายงานข่าวพบซากช้างป่าเสียชีวิตพร้อมกับคณะสื่อมวลชน ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาจังหวะที่บันทึกภาพยังไม่พบความผิดปกติ เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว แต่ต่อมาเมื่อกลับออกมา และนำภาพมาดูจึงเห็นความแตกต่างและมอบภาพให้นายชัวยวัฒน์ ทำการตรวจสอบเพื่อความแน่ชัด และหากพบว่าเป็นจริงก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจ.เพชรบุรีได้เคยถวายช้างสำคัญไปแล้ว