อธิบดีกรมอุทยานลงจุดพบ “ช้างเผือก” สั่งตรึงกำลังพื้นที่แก่งกระจานเข้ม

เพชรบุรี - อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบ “ช้างเผือก” ขณะที่ “รอง ผบ.ฉก.ทัพพระยาเสือ” สั่งตรึงกำลังพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเข้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันนี้ (23 เม.ย.) นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดที่พบช้างที่ต้องลักษณะคชลักษณ์เพื่อตรวจดูรายละเอียด

ทั้งนี้ นายมโนพัศ กล่าวว่า ประเด็นช้างป่าลักษณะพิเศษที่ถูกนักข่าวท้องถิ่นถ่ายภาพได้นั้นเบื้องต้นจากที่ดูในรูปถ่ายช้างมีความสวยงามจำเป็นต้องคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม ขั้นแรกเราต้องพิสูจน์ทราบให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นช้างเผือกจริงไหม แล้วจึงจะดำเนินการต่อไป ซึ่งเรื่องนี้จะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขั้นตอนการพิสูจน์ช้างตัวดังกล่าวทางอุทยานฯ จะมีวิธีการอย่างไร อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ตอนนี้เราเห็นภาพถ่ายไกลๆ ก็อยากเห็นภาพถ่ายใกล้ๆ บ้างว่าเป็นช้างเผือกจริงหรือไม่จริง เราต้องไปเห็นใกล้ๆ ว่าเป็นช้างสีขาว หรือเป็นฝุ่นเกาะช้างหรือเปล่า หรือเป็นเนื้อช้างจริงๆ ซึ่งช้างเผือกต้องมีลักษณะองค์ประกอบอย่างน้อย 7 อย่าง คือ มีผิวขาว เพดานขาว มีตาขาว เล็บขาว อัณฑะขาว เป็นต้น แต่ถ้ามีแค่บางส่วนถือว่าเป็นช้างสีประหลาด ซึ่งก็เป็นมงคลเหมือนกัน หากเป็นช้างสำคัญจริงๆ ถือเป็นมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงโปรดช้าง

ในส่วนของกระบวนการจัดการกับกลุ่มขบวนล่าช้างนั้น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า พูดง่ายๆ หากเจอกันเราจับกุมแน่นอนแต่ถ้าเขาสู้ กลุ่มล่าช้างมีอาวุธ เจ้าหน้าที่มีอาวุธ ก็ต้องปะทะกันเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ รวมทั้งกำลังเสริมจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี ได้ตั้งจุดเฝ้าระวัง พร้อมทั้งชุดลาดตระเวนในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านป่าแดง ต.ป่าเด็ง ซึ่งเป็นจุดที่พบช้างที่ต้องลักษณะคชลักษณ์อย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการเฝ้าระวังความปลอดภัย พร้อมทั้งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณพื้นที่ชั้นในที่พบช้างดังกล่าว เพื่อความสะดวก และคล่องตัวดูแลป้องกันช้างที่อาจตื่นกลัวกระทั่งหนีเข้าไปในป่าลึก ยากต่อการเก็บตัวอย่าง

ทั้งนี้ พ.อ.ฐกัด หลอดศิริ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ (รอง ผบ.ฉก.ทัพพระยาเสือ) กองกำลังสุรสีห์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชาวบ้านบันทึกภาพช้างที่อยู่ในอุทยานป่าแก่งกระจานที่มีลักษณะคล้ายช้างเผือกได้ว่า ทราบข่าวมาจากชาวบ้านประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีช้างเผือกลงมากินน้ำบริเวณลำห้วย ซึ่งทราบแต่เพียงข่าวเท่านั้น เพราะลูกน้องไม่เคยเห็น เพียงแต่ได้ยินจากชาวบ้านเท่านั้น และยังไม่มีใครยืนยันได้ แต่เมื่อได้รับทราบข่าวจึงสั่งการให้ทหารที่เข้าไปดูแลในพื้นที่คอยสังเกตช้างเผือกดังกล่าว

“สำหรับการดูแลช้างป่านั้น ทางทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เราทำงานเป็นระบบ โดยใช้ยุทธวิธีทางทหาร มีการเข้าพื้นที่พูดคุยกับประชาชน เพื่อทำความเข้าใจในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันระหว่างช้างป่า และชาวไร่ และชาวสวน เข้าไปปรับทัศนคติของประชาชนที่ไม่ดีกับช้าง โดยการดึงเข้ามาให้เข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนร่วมกันให้มีประสิทธิภาพ เพราะลำพังทหารเองก็มีงบประมาณไม่มากนัก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดท่านก็ให้งบประมาณสนับสนุนมา แต่ก็ไม่มากนัก กำลังที่ดีที่สุดคือ ชาวบ้านในพื้นที่ต้องช่วยกันดูแล”

ส่วนเรื่องของการดูแลช้างป่านั้น รอง ผบ.ฉก.ทัพพระยาเสือ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานได้บูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ และ ตชด.ร่วมเปิดแผนในการลาดตระเวนพื้นที่ป่าแก่งกระจาน และในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) เวลา 16.00 น.ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดชุดประสานงานอนุรักษ์ช้างป่า และปล่อยแถวลาดตระเวนร่วมกันในการดูแลเส้นทางเดินของช้างป่า