ฝนทิ้งช่วงหลายเดือนทำอ่างเก็บน้ำ “สำนักห้วยไม้เต็ง” เมืองโอ่งลดฮวบ

ราชบุรี - ฝนทิ้งช่วงหลายเดือนทำอ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็ง ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นํ้าลดลงอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรปลูกพืชผัก และน้ำอุปโภคบริโภค หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการชลประทานราชบุรี วอนเกษตรกรช่วยประหยัดน้ำ

จังหวัดราชบุรีกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงหลายเดือน จนนํ้าในอ่างเก็บนํ้าบางแห่งเหลือน้อย โดยเฉพาะระบบการแจกจ่ายน้ำของอ่างเก็บนํ้าห้วยสำนักไม้เต็ง ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีความจุขนาด 36 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่การใช้น้ำ จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอปากท่อ และอำเภอจอมบึง ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำอยู่ในอ่างเก็บน้ำห้วยสํานักไม้เต็งเพียงประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ขณะที่มีเกษตรกร และชาวบ้านใช้น้ำกันหลายตำบล จนทําให้ปริมาณนํ้าในอ่างลดลงอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรปลูกพืชผัก ผลไม้ และอุปโภคบริโภคในช่วงระยะนี้

นายธีระ อุนทะอ่อน หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการชลประทานราชบุรี กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง ตําบลนํ้าพุ อําเภอเมือง ในช่วงต้นฤดูปลูกพืชฤดูแล้ง นํ้าในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณอยู่ประมาณ 14 ลูกบาศก์เมตร ได้มีการส่งน้ำให้กับพื้นที่ต่างๆ และมีการแจ้งแก่เกษตรกรที่ใช้น้ำ และบริการกับพื้นที่การเกษตรเพื่อการปลูกข้าวได้ประมาณไม่เกิน 4,000 ไร่ พืชประเภท พืชไร่ พืชผักประมาณ ไม่เกิน 9,000 ไร่ ในปริมาณน้ำ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่พอถึงเวลาจริงๆ เกษตรกรกลับขยายพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่มขึ้นประมาณกว่า 5,500 ไร่ และพื้นที่ปลูกผัก พืชไร่ รวมแล้วประมาณ 15,000 ไร่ ซึ่งการปลูกข้าวที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 5,000 ไร่ ทำให้มีปัญหาเรื่องปริมาณน้ำไม่เพียงพอ แต่ก็ได้มีความพยายามบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรได้ประหยัดให้มากที่สุด ดูแลการใช้น้ำของเกษตรกรไม่ให้รั่วไหลไปยังพื้นที่อื่น

แต่ถ้าหากฝนไม่ตกในช่วงระยะนี้ น้ำในอ่างคงจะเป็นปัญหาหนัก คาดว่าอาจจะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรตกต่ำลง ทั้งนี้ เนื่องจากมีพื้นที่ทางการเกษตรเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายจำนำราคาข้าวที่ค่อนข้างสูง ทำให้เป็นตัวชักจูงให้เกษตรกรหันมาทำการเกษตรในเรื่องของการปลูกข้าวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่นอกเขตที่ยังมาเอาน้ำของอ่างเก็บน้ำไปใช้ด้วย จึงทำให้เป็นปัญหา

“การแก้ปัญหาได้เข้มงวด และแจ้งบอกเกษตรกรว่า ทางอ่างเก็บน้ำมีปัญหานํ้าเหลือน้อย ขอให้เกษตรกรใช้น้ำกันอย่างประหยัด และอย่าใช้นํ้าให้มีการสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามไม่ให้น้ำออกไปนอกพื้นที่ ตอนนี้ได้ผลพอสมควร น้ำยังอยู่ในพื้นที่ทั้งหมดไม่ออกไปนอกเขต

ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาเลยทางเจ้าหน้าที่ก็จนปัญญาที่หาน้ำจากที่อื่นมาช่วย อาจจะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรลดลง โดยสภาพปัญหานี้ยังไม่เคยเกิดเลย ในระยะก่อนฤดูส่งน้ำเวลาเดียวกันน้ำในอ่างมีอยู่ประมาณ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้กลับมีเพียง 14 ล้านลูกบาศก์เมตร และปีที่แล้วกับพื้นที่ทางการเกษตรไม่ถึงขนาดเท่าปีนี้ ทําให้เวลานี้นํ้าเหลือเพียง 6 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น”