ศูนย์ข่าวศรีราชา - วิศวกรชำนาญการ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง เตรียมนำบันทึกการตรวจสอบโรงงานผลิตกรดกำมะถัน บริษัท พร้อมมาศ จำกัด เสนอผู้ว่าฯ ลงคำสั่งหยุดประกอบกิจการในส่วนของการหลอมละลายกำมะถัน จนกว่าจะมีการแก้ไข รวมทั้งสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อปรับค่า PH ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หลังนำรองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด และชาวบ้านตรวจสอบพบฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงาน สร้างปัญหามลพิษซ้ำซาก
วันนี้ (19 เม.ย.) นายมณฑล ทรรทุรานนท์ วิศวกรชำนาญการ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง พร้อมด้วยนายธวัช บัวจีบ รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตกรดกำมะถัน ตั้งอยู่เลขที่ 21 ถนนเลี่ยงเมืองมาบตาพุด ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ซึ่งเป็นของบริษัท พร้อมมาศ จำกัด หลังเกิดอุบัติเหตุก๊าซซัลเฟอร์รั่วไหลคล้ายหมอกสีขาวปกคลุมชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง ส่งผลให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีตายกันจ้าละหวั่น บางส่วนได้รับผลกระทบกลิ่นเหม็นจนเกิดอาการแสบคอ แสบจมูก หายใจแน่นหน้าอก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
โดยมีนายกฤษณ์ พลรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายโรงงาน นำชมบ่อหลอมละลายกำมะถัน ซึ่งเป็นอาคารเปิดโล่ง และเป็นจุดเกิดกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจาย รวมทั้งบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่พบว่าลำรางในโรงงานถูกกรดกัดกร่อนจนผุ
นายมณฑล ทรรทุรานนท์ วิศวกรชำนาญการ ได้ทำบันทึกการตรวจสอบระบุว่า จากการตรวจสอบพบบริเวณบ่อหลอมละลายกำมะถันมีไอกรด และกลิ่นเหม็นรบกวน เนื่องจากไม่มีระบบกำจัดมลพิษทางอากาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้โรงงานปรับปรุงแก้ไขด้วยการสร้างระบบดูดอากาศรอบบ่อหลอมละลายกำมะถันเข้าสู่ระบบขจัดมลพิษทางอากาศให้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2555
การตรวจสอบไม่พบว่ามีระบบบำบัด จึงเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 37 และปัจจุบัน ยังมีกลิ่นรบกวนชุมชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมพิจารณาคำสั่งตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง ให้บริษัทหยุดประกอบกิจการในส่วนของการหลอมละลายกำมะถัน จนกว่าจะมีการแก้ไขให้แล้วเสร็จ และบ่อบำบัดน้ำเสียในโรงงาน ให้มีการสร้างบ่อบำบัดเพื่อปรับค่า PH ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน (20 มิถุนายน 56)
ส่วนปั๊มน้ำ หรืออุปกรณ์บางชิ้นที่มีผลทำให้เกิดมลพิษทางอากาศทางปล่องระบายส่งผลกระทบต่อประชาชน ให้บริษัทฯ รีบดำเนินการหามาตรการป้องกันโดยเร็วโดยจะมีการนำบันทึกการตรวจสอบโรงงานแห่งนี้เสนอต่อ นายบัณฑิต ธงศรีเจริญ อุตสาหกรรม จ.ระยอง เพื่อพิจารณา และส่งเรื่องให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง ลงนามคำสั่งหยุดประกอบการกิจการเป็นเวลา 60 วันต่อไป
