ระยอง-ชาวบ้านมาบตาพุดแตกตื่น หลังแก๊สซัลเฟอร์โรงงานพร้อมมาศ รั่วซ้ำซาก อพยพหนีทนกลิ่นเหม็นแก๊สซัลเฟอร์ไม่ไหว
เย็นวันนี้ (16 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ว่า มีกลุ่มควันขาวปกคลุมในหมู่บ้าน ทำให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาต้องเปิดไฟหน้ารถเนื่องจากมองไม่เห็นถนน ส่งกลิ่นเหม็นแก๊สจนแสบคอ แสบจมูก ชาวบ้านต้องรีบอพยพคนชรา และเด็กออกจากหมู่บ้าน
เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มควันขาวดังกล่าวมาจากโรงงานพร้อมมาศ เนื่องจากโรงงานดังกล่าวอยู่เหนือทิศทางลมเพียงแห่งเดียว ซึ่งเคยเกิดแก๊สรั่วมาแล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบที่หน้าบริษัท พร้อมมาศ จำกัด เลขที่ 21 ถนนเลี่ยงเมืองมาบตาพุด สาย 6 ต.ห้วยโป่ง เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด โรงงานดังกล่าวอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด พร้อมด้วย นายธวัช บัวจีบ รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด นายจำนง จ้อยทองมูล ประธานชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง นายมาโนช ประวัติ กรรมการชุมชน และนายบัญชา สุขสุรัส ที่ปรึกษาชุมชนและชาวบ้าน
นายกฤษณ์ พลรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท พร้อมมาศ จำกัด กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเครื่องจักรอยู่ระหว่างการผลิตกรดซัลฟิวริก โดยใช้กำมะถันเป็นวัตถุดิบ เกิดกลุ่มควันขาวฟุ้งกระจายออกจากโรงงาน สาเหตุเกิดจากอุปกรณ์เครื่องเปลี่ยนความร้อนขัดข้อง ทำให้เครื่องลดอุณหภูมิความร้อนไม่ได้ ทำให้แก๊สซัลเฟอร์รั่วไหลออกมา จึงรีบชัตดาวน์เครื่องจักรระบบแก๊สที่ตกค้างอยู่ภายในท่อ ต้องใช้เวลาในการไล่แก๊สให้หมดไปสักระยะ หลังทราบเหตุมีแก๊สรั่วไหลจึงรีบแจ้งชาวบ้านให้ทราบ จากนั้นได้ออกไปพบชาวบ้านที่กำลังใช้ผ้าปิดจมูกชี้แจงทำความเข้าใจ
นายจำนง จ้อยทองมูล ประธานชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง กล่าวว่า ขณะเกิดกลุ่มควันสีขาวปกคลุมในชุมชน และมีกลิ่นเหม็นแก๊สทำให้ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายทั้งผู้ใหญ่ และเด็กขึ้นรถยนต์หนีออกจากกันชุลมุน บางคนไม่มีรถยนต์ต้องปิดประตูหน้าต่าง แต่กลิ่นเหม็นแก๊สก็ยังเข้าไปได้ต้องใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก นางประทุม ประวัติ อายุ 78 ปี มารดาและนางเหนย นวลดี อายุ 87 ปี แม่ภรรยา นอนอยู่ในบ้านสูดดมแก๊สซัลเฟอร์ทำให้เกิดอาการแสบคอ ไอจนอาเจียน
ชาวบ้านในชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้มีปัญหาเรื่องแก๊สซัลเฟอร์รั่วมาหลายครั้ง ชาวบ้านร้องอุตสาหกรรม จ.ระยอง เข้ามาแก้ไข 2 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังเกิดแก๊สซัลเฟอร์รั่วซ้ำอีก คราวนี้หนักมากเนื่องจากกลุ่มควันขาวปกคลุมจนมองไม่เห็นถนน
นายธวัช บัวจีบ รองนายกเทศมนตรี เมืองมาบตาพุด กล่าวกับนายกฤษณ์ พลรัตน์ ผจก.ฝ่ายผลิตโรงงานว่า ต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์เครื่องจักรที่ขัดข้องทำให้เกิดแก๊สซัลเฟอร์รั่ว ว่ามีการใช้งานมานานแค่ไหน และมีมาตรฐานหรือไม่ เพราะทราบว่าเกิดเหตุการณ์แก๊สซัลเฟอร์รั่วครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หากยังไม่มีการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องที่มีมาตรฐานหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานไม่ได้ก็ให้หยุดเลิกการผลิตไป เพราะเรื่องนี้ประชาชนรับไม่ได้ที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากอยู่อย่างนี้ ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องเดือดร้อน