เลย - เกษตรเมืองเลยเตือนชาวสวนยางเฝ้าระวังโรคราแป้งกำลังระบาด เหตุอากาศผันผวน ทั้งหนาว หมอกลง ตกบ่ายร้อนจัดหรือมีฝนตก ทำให้เชื้อราแป้งระบาดเร็ว แนะใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงกว่าปกติ
วันนี้ (11 ก.พ.) นายอัคนีวุธ กลับน่วม เกษตรจังหวัดเลย กล่าวว่า ได้ออกประกาศเตือนชาวสวนยางพารา ว่าช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน มีทั้งหนาว น้ำค้าง ร้อน หรือมีฝนตกปรอยๆ ซึ่งจะทำเกิดโรคโรคราแป้งในยางพารา โดยโรคราแป้ง หรือโรคใบร่วงออยเดียม (Powdery mildew or Oidium Leaf Disease) เกิดจากเชื้อรา Oidium heveae Steinm ลักษณะทั่วไปจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเป็นกระจุกเส้นใยสีขาว ถ้าส่องดูด้วยแว่นขยายจะเห็นสปอร์ติดกันเป็นลูกโซ่อยู่ปลายเส้นใย โดยกลุ่มของเชื้อราเจริญได้ดีบนใบ มองเห็นเป็นรอยหย่อมๆ ทั่วไป ซึ่งเชื้อสกุลออยเดียมที่พบทำลายใบและดอกยางเป็นชนิด Oidium heveae ซึ่งเจริญเติบโตบนเนื้อเยื่อของพืชที่มีชีวิตเท่านั้น
“เชื้อราสกุลดังกล่าวอยู่ได้นานข้ามปีได้ อาศัยบนใบยางที่อยู่กิ่งล่างหรือต้นกล้าที่งอกในสวนยาง แต่ยังไม่พบว่าเชื้อรานี้สร้างสปอร์ชนิดอื่นๆ เพื่ออยู่ข้ามฤดูกาลได้ โดยมักจะระบาดบนใบยางอ่อนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ส่งผลให้ใบยางร่วงซ้ำอีกครั้ง กิ่งแขนงบางส่วนอาจแห้งตาย ความรุนแรงของโรคนี้อยู่กับลักษณะการผลัดใบ อายุใบ ความต้านทานโรคของพันธุ์ยางด้วย”
นายอัคนีวุธกล่าวว่า การแพร่ระบาดจะรุนแรงช่วงที่ยางผลิใบใหม่ และในพื้นที่ซึ่งมีสภาพแวดล้อมกลางวันร้อนจัด กลางคืนเย็นและชื้น มีหมอกในตอนเช้า หรือมีฝนตกปรอยๆ ในบางวัน โรคราแป้งแพร่กระจายได้โดยลม และแมลงจำพวกไรที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนของยาง ทำให้ใบยางบิดงอ เน่าดำ และร่วงจากลำต้น
สำหรับวิธีการป้องกันและกำจัด ให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงกว่าปกติในช่วงปลายฤดูฝน และใส่ในช่วงที่ยางผลิใบอ่อน เพื่อเร่งให้ใบยางที่ผลิออกใหม่แก่เร็วขึ้น ถ้าต้นยางที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ให้เกษตรกรพ่นใบยางอ่อนในช่วงเช้าตรู่ด้วยผงกำมะถัน อัตราไร่ละ 1.5-4 กิโลกรัม ทุก 5-7 วัน พ่นประมาณ 5-6 ครั้ง หรือใช้สารเคมีจำพวกเบโนมิล คาร์เบนดาซิม ซัลเฟอร์ ไตรดีมอร์ฟ และกำมะถัน อัตราการใช้ที่แนะนำตามตาราง ห้ามใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำ เพราะจะทำให้ใบยางไหม้ได้
“ให้เกษตรกรฉีดพ่นสารเคมีที่แนะนำบนใบยางอ่อนช่วงที่พบโรคทุกสัปดาห์ จะช่วยลดอาการของโรคราแป้งได้ ส่วนต้นยางที่มีขนาดใหญ่ ให้ใช้กำมะถันสุมไฟเป็นกองให้เกิดควันกระจายในสวนยางพารา และหากกำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดก็ไม่ต้องตกใจ เพราะโรคราแป้งเพียงแค่ทำให้ต้นยางชะงักการเจริญเติบโตเท่านั้น ไม่รุนแรงจนทำให้ต้นยางตาย คาดว่าหลังจากนี้ประมาณ 1 เดือนเมื่อใบยางแก่ และไม่มีฝนตกลงมาอีก โรคนี้จะหายไปเอง”