นครสวรรค์ - เมืองปากน้ำโพ ต้นเจ้าพระยาต้องประกาศพื้นที่ภัยแล้งแล้ว 14 อำเภอ ขณะที่ชาวนาบางส่วนต้องลงทุนควักกระเป๋าจ้างคนเจาะบาดาลหาน้ำเข้านา จนคิวคนรับจ้างเจาะบาดาลแน่นยาวถึงเดือนมิถุนายนแล้ว
นายสมเกรียติ พวงสมบัติ ชาวนา ม.1 ตำบลยางขาว อ.พยุหะคีรี กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ถือได้ว่าแล้งที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ตนต้องรอน้ำจากคลองชลประทานที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อใช้ในการทำนา แต่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำกว่าปากคลองสาขา ทำให้ทำนาไม่ได้ จึงตัดสินใจควักเงินกว่า 15,000 บาท จ้างเหมาเจาะบ่อบาดาลในที่นา 3 จุด เพื่อใช้สูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใส่นาข้าว ที่มีอยู่ 80 ไร่ ไม่ต้องรอน้ำจากชลประทาน แม้จะต้องเสียเงินอีกจำนวนไม่น้อยเพื่อเป็นค่าน้ำมันในการสูบน้ำจากบ่อบาดาลก็ตาม
ด้านนายโสพิน อ่อนละมูล อายุ 62 ปี ผู้รับจ้างขุดหาน้ำบาดาลใต้ดินกล่าวว่า ช่วงนี้นับเป็นนาทีทองของตน เนื่องจากชาวนาต่างจองคิวจ้างให้ไปขุดเจาะบ่อบาดาล วันละ 1-2 ราย ทุกวัน ยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายน
นายโสพิน กล่าวต่อว่า ตนรับจ้างเจาะบาดาลนั้น จะคิดเฉพาะค่าแรงบ่อละ 3,500 บาท โดยจะมีงานตลอดทั้งปี ยิ่งเป็นช่วงหน้าแล้งด้วยแล้วแทบไม่มีเวลาว่าง แต่ก็ถือได้ว่าคุ้มค่า เนื่องจากรายได้รวมในแต่ละปีได้เป็นหลักแสนเลยทีเดียว
ล่าสุด สถานการณ์ภัยแล้งของ จ.นครสวรรค์ ในขณะนี้ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ 14 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว ประกอบด้วย อำเภอพุยุหะคีรี อำเภอท่าตะโก อำเภอหนองบัว อำเภอไพศาลี อำเภอชุมแสง อำเภอแม่วงก์ อำเภอตากฟ้า อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอชุมตาบง อำเภอแม่เปิน อำเภอลาดยาว อำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอโกรกพระ และอำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบ 48,512 ครัวเรือน และมีพื้นการเกษตรได้รับความเสียหายทั้งหมด 276,926 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าว 259,770 ไร่ พืชไร่ 14,858 ไร่ และพืชสวนอีก 2,298 ไร่
คลิกเพื่อชมคลิป: