กาญจนบุรี -แกนนำม็อบมันยอมถอย 1 ก้าว เคลื่อนขบวนกลับที่ตั้ง ลั่นอังคารหน้าหากจังหวัดเบี้ยวพาเข้าพบเจ้ากระทรวงพาณิชย์ ผู้มีอำนาจตัดสินใจสั่งการขยายเวลา พร้อมลุยทำเนียบทันที ด้าน ตร.กาญจน์ ดูแลการจราจรเต็มพิกัด
ความคืบหน้ากรณี นายรังสี ไผ่สะอาด นายชาย สุวรรณคดี และนายนิพนธ์ หล้าช่วง แกนนำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อำเภอไทรโยค และกลุ่มเกษตรกรจากอำเภอไทรโยค ประมาณ 70 คน พร้อมรถบรรทุกมันสำปะหลังมาเต็มคันรถ มีทั้งรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุก 6 ล้อ และรถยนต์กระบะรวม 12 คัน เดินทางมาจอดค้างคืนที่บริเวณลานจอดรถร้านรจนาขายของฝาก ติดกับ 3 แยกไฟแดงท่าล้อ หมู่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยคืนที่ผ่านมา นายกาศพล แก้วประพาฬ และนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รอง ผวจ.กาญจนบุรี ได้เชิญแกนนำไปเจรจากันที่ห้องประชุมดาวดึงส์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี แต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล จึงทำให้กลุ่มเกษตรกรมาพักค้างคืนยังจุดที่จอดรถ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ท่าม่วง สภ.เมืองกาญจนบุรี และจาก สภ.ไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มาคอยดูแลความปลอดภัย จนกระทั่ง เวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.ท่าม่วง พร้อมด้วย นายหัสนัย จิตรารีย์ นายอำเภอท่าม่วง เดินทางไปเจรจากับแกนนำม็อบมันสำปะหลัง เพื่อรอการเจรจากับหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 มี.ค.) นายกาศพล แก้วประพาฬ รอง ผวจ.กาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญแกนนำไปเจรจาเป็นครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุมดาวดึงส์ โดยการเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถหาทางออกร่วมกันได้ จากนั้น นายรังสี ไผ่สะอาด แกนนำได้โทร.ประสานไปยังกลุ่มเกษตรกรที่ปักหลักอยู่ที่บริเวณลานจอดรถให้ทราบถึงความเคลื่อนไหว โดยให้ทุกคนเคลื่อนขบวนไปรับฟังความคิดเห็นพร้อมกันที่บริเวณหน้าบ้านพักของรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยตลอดเส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รวมทั้งตำรวจสายตรวจคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรได้เป็นอย่างดี
โดยนายรังสี แกนนำ ได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง และอธิบายให้แก่กลุ่มเกษตรกรได้รับทราบถึงข้อตกลงที่ทำการเจรจากันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และแกนนำ ทั้งนี้ การกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงของนายรังสี ข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นการกล่าวโจมตีโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งนำไปเปรียบเทียบกับโครงการประกันราคาของรัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่อย่างไรก็ตาม การชุมนุมดังกล่าวไม่ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้สัญจรไปมาแต่อย่างใด ต่อมา นายรังสี แกนนำได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้กลุ่มเกษตรกรทั้งหมดเคลื่อนขบวนกลับบ้านที่อำเภอไทรโยค เนื่องจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับปากว่า ในวันอังคารที่จะถึงนี้ ทางจังหวัดจะจัดรถยนต์ตู้ให้ 1 คัน พร้อมที่จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้กลุ่มแกนนำที่จะร่วมเดินทางไปให้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเจรจาต่อรองขอให้ขยายเวลาโครงการรับจำนำมันสำปะหลังออกไปอีก 1 เดือน แต่ถ้าหากการเข้าพบผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในวันอังคารนี้ไม่เป็นผล เรากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันอำเภอไทรโยค ก็จะปักหลักค้างคืนที่หน้าทำเนียบรัฐบาลต่อไป ส่วนการเดินทางกลับในครั้งถือว่าเป็นการถอยคนละก้าวระหว่างจังหวัดกาญจนบุรีกับกลุ่มเกษตรกร โดยหลังจากที่นายรังสี ประกาศออกไปทำให้กลุ่มเกษตรกรเริ่มทยอยกันกลับบ้าน แต่ก็มีบางส่วนที่แสดงความไม่พอใจอยู่บ้าง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
นายกาศพล แก้วประพาฬ รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวภายหลังว่า จังหวัดเห็นใจกลุ่มเกษตรกรทุกคนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้น ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนโรงมันที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่อำเภอไทรโยคมีเพียงแค่ 2 แห่ง และเปิดทำการเพียง 1 แห่ง จึงทำให้ประชาชนนำมันสำปะหลังไปจำนำไม่ทัน และไม่ได้เงินตามเวลาที่ต้องการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไปทำการเจรจากับเจ้าของโรงมันอีก 1 แห่ง ที่ปิดโครงการรับจำนำขอให้เปิดรับจำนำมันสำปะหลังขึ้นใหม่ หากไม่ได้ตามร้องขอ วันอังคารที่จะถึงนี้ ตนก็พร้อมที่จะนำกลุ่มเกษตรกรเข้าพบผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในการขยายเวลาโครงการรับจำนำมันสำปะหลังออกไปอีก 1 เดือน ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกร” นายกาศพลกล่าว
รายงานข่าวล่าสุด การเดินทางกลับของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้รับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สภ.เมืองกาญจนบุรี สภ.ลาดหญ้า และ สภ.ไทรโยค โดยมีรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเป็นผู้นำทาง และเพิ่งถึงอำเภอไทรโยค เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา