xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจกาญจน์-ทวาย MOU ดัน “ด่านพุน้ำร้อน” เป็นด่านถาวร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผวจ.กาญจนบุรี ชวามือ และซ้ายมือ นายคิน หม่อง เอ(Mr.Khin Maung Aye) ประธานหอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรม ตะนาวศรี จังหวัดหวัดทวาย ประเทศเมียนม่าร์
กาญจนบุรี - นักธุรกิจกาญจนบุรี และทวายจากพม่า ร่วมประชุมพร้อมเซ็น MOU ครั้งประวัติศาสตร์ หวังร่วมมือผลักดันยกระดับด่านพุน้ำร้อน เป็นจุดผ่านแดนถาวร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (29 มี.ค.) ที่บริเวณไซต์งาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เขตติดต่อชายแดนไทย-พม่า หมู่ 12 บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น โอกาส และศักยภาพการยกระดับด่านพุน้ำร้อนเป็นจุดผ่านแดนถาวร โดยมี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในการประชุม มีตัวแทนฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการ ผจก.บริษัท ในเครือยงสวีสดิ์กรุ๊ป ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี นายธีระชัย ชุติมันต์ ผจก.โรงงานผลิตน้ำแข็ง และน้ำดื่มรายใหญ่ในเครือเจือพาณิชย์ ในฐานะประธานหอการค้ากาญจนบุรี และนายคิน หม่อง เอ (Mr.Khin Maung Aye) ประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรม ตะนาวศรี จังหวัดทวาย ประเทศพม่า โดยมีนายนพดล สระวาสี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย

นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการ นักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจจากจังหวัดกาญจนบุรี และทวาย ร่วมงานกว่า 300 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีนักธุกิจระดับท้องถิ่นของจังหวัดกาญจนบุรี และระดับท้องถิ่นของประเทศพม่าเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวในที่ประชุมว่า การประชุม และลงนาม MOU ของนักธุรกิจจากจังหวัดกาญจนบุรี และจากประเทศพม่าในครั้งนี้นี้นับว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของนักธุรกิจระดับท้องถิ่น และเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศด้วย ที่ผ่านมา เรามีศักยภาพและมีความพร้อมในการค้าร่วมกัน แต่ขณะนี้เรายังไม่สามารถทำการค้าร่วมกันได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของการเปิดด่าน

ความคิดในการจัดประชุมสัมมนาที่ชายแดนไทยในวันนี้ เพื่อกระตุ้น และเร่งเร้าในการเปิดด่านถาวรให้เร็วขึ้น ในเรื่องธุรกิจการค้าเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีธุรกิจการค้าที่เชื่อมต่อกัน วันนี้จึงถือเป็นกิจกรรมก้าวสำคัญในครั้งแรก และจะมีกิจการแบบนี้ต่อไปในเร็ววันนี้ โดยนอกจากการค้าแล้วเรายังหวังเรื่องประสานด้านประเพณี วัฒนธรรม การศึกษา และสาธารณสุขด้วย

ล่าสุด เราจะส่งคณะฝึกสอนภาษาช่วยฝึกสอนให้สมาชิกสภาหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมที่ย่างกุ้ง ดังนั้น การที่ทวายจะให้เราช่วยด้านนี้ก็ยินดี และพร้อมที่จะส่งวิทยากรไป ด้านการสาธารณสุขเราส่งทีมการแพทย์ไปยังไซต์งานอิตาเลียนไทย ในทวาย เพื่อดูแลปัญหาโรคมาลาเรีย และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีแห่งเนปีดอ ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการรถไฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว ได้มาที่พญาตองซู ตนได้เดินทางไปร่วมด้วย และมีการปรึกษาหารือกัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มุ่งหวังจะมีการต่อเชื่อมทางถนนทันบูซายัดมาพญาตองซูเข้าด่านพระเจดีย์สามองค์ของ จังหวัดกาญจนบุรี ฝ่ายเราก็จะหานักลงทุนไปร่วมลงทุนเพื่อให้การก่อสร้างทางสำเร็จโดยเร็ว ในเรื่องทางรถไฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟ จะรื้อฟื้นทางรถไฟจากทันบูซายัดมาพญาตองซู และขอให้ทางไทยรื้อฟื้นทางรถไฟจากอำเภอไทรโยค ไปยังด่านพระเจดีย์สามองค์ เช่นกัน

ล่าสุด ทราบว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค.56 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติพม่า ได้เชิญนายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เข้าพบเพื่อหารือในประเด็นการเดินทางข้ามแดนระหว่างไทยกับพม่า กรณีการลงนามความตกลงว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศเมื่อปี 2540 ซึ่งได้อนุญาตให้บุคคลทั้งสองประเทศเดินทางข้ามแดน ณ จุดผ่านแดนที่ได้รับอนุญาต เช่น ด่านท่าขี้เหล็ก-แม่สาย, ด่านเมียวดี-แม่สอด, ด่านเกาะสอง-ระนอง และได้มีการเพิ่มเติม ด่านพญาตองซู-พระเจดีย์สามองค์ สามารถข้ามฝั่งเข้าไปในประเทศพม่าได้ในระยะ 6 ไมล์ หรือประมาณ 10 กิโลเมตร ด่านทิกิ-บ้านพุน้ำร้อน สามารถเดินทางเข้าไปถึงเมืองทวาย และด่านมอต่อง-สิงขร สามารถเดินทางเข้าไปได้ถึงเมืองมะริด

โดยฝ่ายประเทศพม่ามีความพร้อมในการดำเนินการไม่เกิน 2 สัปดาห์ จึงประสงค์ประสานฝ่ายไทยเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทางฝ่ายไทยจะเร่งดำเนินการ เพื่อจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในส่วนรวมโดยเร็วต่อไป

ด้านนายคิน หม่อง เอ (Mr.Khin Maung Aye) ประธานหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม ตะนาวศรี จังหวัดทวาย ประเทศพม่า กล่าวว่า วันนี้ผมและคณะนักธุรกิจจากประเทศพม่า ยินดีที่ได้เดินทางมาร่วมแสดงความคิดเห็น ที่ผ่านมา จังหวัดทวายมีนักธุรกิจมากมายหลากหลายสาขาอาชีพ เรามีความพร้อมในการทำธุรกิจและกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับประเทศไทย ในส่วนตัวผมเชื่อว่า จังหวัดกาญจนบุรี มีความตั้งใจจริงที่จะผลักดันการเปิดด่านถาวรด้านชายแดนบ้านพุน้ำร้อนให้ได้โดยเร็ว ซึ่งทางนักธุรกิจของจังหวัดทวายก็มีความตื่นตัวในเรื่องนี้เช่นกัน และพร้อมที่จะประสานงานกับนักธุรกิจของไทย โดยเฉพาะ จ.กาญจนบุรี ในการดำเนินการธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป

นายธีระชัย ชุติมันต์ ผจก.ประธานหอการค้ากาญจนบุรี และนายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันเปิดเผยว่า ในนามตัวแทนของหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี รู้สึกยินดีที่ประเทศไทย และพม่า มีความพร้อมที่จะสานการค้าในด้านชายแดนบ้านพุน้ำร้อนแห่งนี้ และร่วมกันผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรโดยเร็ว เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีการค้ากันมาอย่างยาวนาน และมีการติดต่อประสานระหว่างกันด้านการค้า โดยมีข้อมูลการค้าชายแดนปีล่าสุดยืนยันตัวเลขสูงมากถึง 180,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากต่อ 2 ประเทศ

“จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดมีพื้นที่ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีประชากรมากกว่า 8 แสนคน มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นการเกษตร การประมง เหมืองแร่และย่อยหิน การบริการและการท่องเที่ยว การปศุสัตว์ และอุตสาหกรรม มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกันที่มีความเป็นไปได้สูง คือ ด้านการเกษตร ด้านการค้าขาย การเดินทางด้วยระบบลอจิสติกส์ระยะทางจาก กทม. มากาญจนบุรีเพียง 120 กิโลเมตร และจากกาญจนบุรีไปเมืองทวายเพียง 170 กิโลเมตร หากเป็นรถบรรทุกสินค้าจะทุ่นระยะทาง และระยะเวลาในการเดินทาง การท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนให้มีการเปิดด่านถาวรให้เร็วขึ้น เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตในอนาคตต่อไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น