ประจวบคีรีขันธ์ - รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กรมสนธิสัญญา ตลอดจนนักกฎหมาย นักการทูต จนท.กระทรวงการต่างประเทศ กรมแผนที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ มท.พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพภูมิประเทศเพื่อประกอบการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวร ที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะประสานไปยังสถานกงสุลไทยที่เมืองย่างกุ้ง ให้ประสานทางการพม่า ส่ง จนท.ร่วมสำรวจเขตแดนกับฝ่ายไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นอีกขั้นตอนก่อนที่จะมีการประกาศเป็นด่านถาวรในอนาคต
วันนี้ (8 ม.ค.) นายพิชย์พันธุ์ ชาญภูมิดล รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก นายดามพ์ บุญธรรม ผผู้อำนวยการกองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย น.ส.ใจไทย อุปการนิติเกษตร นักการทูตชำนาญการ กรมเอเชียตะวันออก จากกระทรวงการต่างประเทศ พ.อ.กิตติ ตาดเงิน กรมแผนที่ทหาร และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเข้าร่วมการตรวจสอบสภาพภูมิประเทศเพื่อประกอบการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวร มีนายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนายสิริวุฒิ เหมทัต ปลัดจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ป้องกันจังหวัด นายด่านศุลกากร ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด นายก อบต.คลองวาฬ กำนันตำบลคลองวาฬ ประธานหอการค้า นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในที่ประชุมตัวแทนของจังหวัดได้บรรยายสรุปถึงการดำเนินการขั้นตอนในการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขร เป็นด่านถาวร เพราะจะเป็นการเปิดประตูการค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า และจะส่งผลดีต่อด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านตานโยบายของรัฐบาล
หลังจากนั้น นายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะได้นำรองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมสื่อมวลชนเดินทางไปยังจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขร ดูความพร้อมของพื้นที่ ซึ่งจะมีการขยายหน่วยงานราชการเพื่อรองรับการเปิดด่าน พร้อมกันนั้น เดินทางเข้าไปยังบริเวณด่านของพม่า โดยมีเจ้าหน้าที่หอการค้าบ้านมูด่องของพม่า นำคณะเข้าไปดูพื้นที่จุดสร้างหน่วยงานราชการของฝั่งพม่า ที่จะมีการรองรับในการเปิดเป็นด่านถาวรในอนาคต ซึ่งการก่อสร้างมีความคืบหน้ามากกว่า 50% รวมทั้งเส้นทางถนนจากบ้านมูด่อง-เมืองตะนาวศรี ระยะทางประมาณ 120 กม.คาดว่าการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ โดยภาคเอกชนฝั่งไทยเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่เหลือไปถึงเมืองมะริด ฝั่งพม่าจะเป็นผู้ดำเนินการ
นายพิชย์พันธุ์ ชาญภูมิดล รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กล่าวว่า วันนี้หลังจากกลับไปแล้วทางกระทรวงการต่างประเทศ จะประสานไปยังสถานกงสุลไทยในกรุงย่างกุ้ง ให้ทางการของพม่าตอบรับพร้อมที่จะมาร่วมสำรวจเขตแดนกับทางการของไทยร่วมกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการที่จะประกาศเปิดเป็นด่านถาวรต่อไป ทั้งนี้ คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพราะเมื่อสำรวจเขตแดนร่วมกันแล้ว ต้องดูทั้งเรื่องพื้นที่สันปันน้ำเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ ซึ่งหากทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบร่วมกันไม่มีปัญหา ก็ทำรายงานในการร่วมสำรวจพื้นที่ เพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติการเปิดเป็นด่านถาวรต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีบ้านพุน้ำร้อนนั้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลากว่า 2 ปีถึงจะดำเนินการแล้วเสร็จถึงจะประกาศ ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าใหญ่มากน้อยขนาดไหน
รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ที่ผ่านมาได้มีการผ่านความเห็นชอบของสภาความมั่นคงแห่งชาติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน และพัฒนาความเจริญทั้งของประเทศไทย และพม่า ที่ผ่านมาทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีของพม่า ก็ได้เห็นชอบในการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขรเป็นด่านถาวรแล้ว นอกจากนั้น ในที่ประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทยพม่า หรือเจบีซี ที่เมืองเนปิดอ ของพม่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ก็เห็นชอบให้มีการสำรวจเขตแดนร่วมกัน