ประจวบคีรีขันธ์ -มุขมนตรีรัฐตะนาวศรี เมืองทวาย ของสหภาพเมียนมาร์ พร้อมฝ่ายความมั่นคง และภาคเอกชน เดินทางสำรวจเส้นทางจังหวัดมะริด-ตะนาวศรี ระยะทาง 220 กม.เพื่อเชื่อมต่อกับประจวบฯ หลังทั้งสองเมืองร่วมผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนของสิงขร เป็นด่านถาวรในปลายปี ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์เตรียมจัดส่งเอกสารการเปิดด่านสิงขรให้นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ขณะที่การประชุมเจบีซี ครั้งที่ 7 ที่เมืองเนปิดอ เมืองหลวงของพม่า ไทย-พม่าเห็นควรอำนวยความสะดวกในการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขรเป็นด่านถาวร และให้ทั้งสองประเทศจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจเขตแดนให้เรียบร้อย
วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสิงขร หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นด่านถาวรในปลายปีนี้เพื่อเชื่อมจังหวัดมะริด เมียนมาร์ กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังทั้ง 2 เมืองร่วมกันผลักดัน และสร้างความสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ นายอู เมียด โก(U MYAT KO) มุขมนตรีรัฐตะนาวศรี เมืองทวาย สหภาพเมียนมาร์ ซึ่งดูแลพื้นที่รับผิดชอบของเมืองทะวาย มะริด ตะนาวศรี และจังหวัดเกาะสอง ของประเทศสหภาพเมียนมาร์ พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัดมะริด ประธานหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด พร้อมนักธุรกิจ ตลอดจนฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ แขวงการทาง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของฝั่งเมียนมาร์ ได้เดินทางด้วยรถยนต์โฟร์วีลล์จากจังหวัดมะริดมายังตะนาวศรี และมุ่งหน้าสู่บ้านมูด่อง มาสู่จุดผ่อนปรนช่องสิงขร ที่จะเปิดเป็นด่านถาวร ระยะทาง 220 กิโลเมตร
พร้อมกันนั้น ฝ่ายจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการทั้ง ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ป้องกันจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองวาฬ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านคลองวาฬ ตลอดจนเจ้าหน้าที่หอการค้า และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับคณะของผู้ว่าฯ รัฐตะนาวศรี ที่ห้องประชุมของภาคเอกชนเมียนมาร์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากฝั่งไทยประมาณ 15 กิโลเมตร
ทั้งนี้ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลักดันเปิดด่านสิงขรว่า ขณะนี้ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เร่งดำเนินการจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับด่านสิงขรทั้งหมด เพื่อจัดส่งไปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นอกจากนั้น ในการประชุมเจบีซีครั้งที่ 7 ที่เมืองเนปิดอของสหภาพเมียนมาร์ เมื่อต้นเดือน ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา
โดยคณะคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย และพม่า มีความเห็นร่วมกันที่จะต้องสำรวจเขตชายแดนไทยพม่าก่อนยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขรเป็นด่านสิงขรอย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังจากสำรวจเสร็จสิ้นลงแล้วก็คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ การเปิดด่านถาวรนั้นจะต้องประกาศโดย ครม. และขอให้ผู้ว่าฯ รัฐตะนาวศรีช่วยเร่งประสานกับทางรัฐบาลเมียมาร์ เพื่อให้การเปิดด่านถาวรของทั้งสองฝ่ายสำเร็จภายในปลายปีนี้ให้ได้
อย่างไรก็ตาม นายอู เมียด โก(U MYAT KO) มุขมนตรีรัฐตะนาวศรี เมืองทวายสหภาพเมียนมาร์ กล่าวว่า จากการเดินทางสำรวจเส้นทางซึ่งมีการปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่เมืองตะนาวศรีมาถึงบ้านมูด่อง ระยะทางประมาณ 120 กม. ขณะนี้เดินทางด้วยรถยนต์โฟร์วีลล์ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาเดินทางอย่างน้อยกว่า 5 ชม. เนื่องจากสภาพถนนบางช่วงยังซ่อมแซมไม่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นถนนลูกรัง จึงขอให้ทางฝั่งไทยที่ได้รับการว่าจ้างเร่งปรับปรุงเส้นทางให้เสร็จโดยเร็ว
ส่วนการดำเนินการในส่วนของการเตรียมสถานที่จัดตั้งที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานราชการต่างๆ ของฝั่งเมียนมาร์ มีที่ดิน และได้เร่งดำเนินการอยู่แล้วซึ่งฝั่งพม่ายืนยันว่า ในเดือนธันวาคมน่าจะเรียบร้อย ทั้งนี้ มั่นใจว่าหากทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดมะริด ของเมียนมาร์ ทำการเปิดด่านได้สำเร็จก็จะส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ ทั้งเศรษฐกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เพราะทั้งมะริดและประจวบคีรีขันธ์ มีศักยภาพด้านต่างๆ พร้อมอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของฝั่งเมียนมาร์ก็ได้มีการประสานงานกับทางรัฐบาลพม่าตลอดเวลา และทางผู้นำของเมียนมาร์ก็รับรู้ในเรื่องเปิดด่านตรงจุดนี้อยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ด้านนายประกิตติ อาจพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หากสามารถยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขรเป็นด่านถาวรในอนาคตที่ตั้งไว้ในปลายปีนี้ ก็จะส่งผลดีต่อจังหวัดประจวบฯ และประเทศไทย เพราะเท่ากับเป็นการเปิดประตูการค้าชายแดนอีกด้าน ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ การปรับปรุงถนนเส้นทางจังหวัดมะริด-เมืองตะนาวศรี-บ้านมูด่อง ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตรนั้น ต้องสามารถเดินทางสัญจรได้สะดวก ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ทางภาคเอกชนไทยกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
