ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พบพืชใบอ่อนพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ใบไหม้ แห้งตายเหมือนกระเทียม สมาคมต่อต้านโลกร้อน ร่อนแถลงการณ์จี้รัฐบาล-กฟผ. รับผิดชอบ หวั่นเกิด “ฝนกรด” ซ้ำรอยปี 35
วันนี้ (24 มี.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ส่งแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาล และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับผิดชอบกรณีเกิด “ฝนกรด” ทำลายพืชการเกษตรใน อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้รับความเสียหายให้แก่สื่อมวลชนทุกแขนง โดยระบุว่า กรณีพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านใน ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เกิดความเสียหายจากน้ำฝนแรกของฤดูร้อนที่เพิ่งตกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้กระเทียมตายไปทั้งแปลงทั้งหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้แก่ชาวบ้านจนแทบหมดเนื้อหมดตัว เพราะไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต รวมทั้งไม่สามารถเก็บหัวพันธุ์ไว้ปลูกในฤดูต่อไปได้
ทั้งนี้ ชาวบ้านใน ต.นาสัก แจ้งว่า เหตุเกิดจากพายุฝนที่ตกลงมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับข่าวพายุลูกเห็บถล่มลำปาง ซึ่งโดยปกติในทุกปีกระเทียมจะให้ผลผลิตดีมาก หัวใหญ่ แต่ปีนี้ปลูกได้แค่ 2 เดือน กระเทียมกำลังจะเริ่มมีหัว ฝนกลับตกลงมา จากนั้นก็มีอาการใบไหม้ และแห้งเสียหายทั้งหมดใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
และนอกจากกระเทียมแล้ว พืชผักอื่นก็ได้รับความเสียหายอีกมาก สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะพืชใบอ่อน รวงข้าวนาปรัง ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นมาหลายวันแล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับผิดชอบยังไม่กระตือรือร้นที่จะเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้าน
ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดมลพิษจำพวกสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และไนตรัสออกไซด์ (NOx) เพียงแหล่งเดียว คือ โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ทำให้เชื่อได้ว่าอาจนำไปสู่ปัญหาการเกิดฝนกรด (Acid Rain) ได้ เนื่องจากมีการปล่อยมลพิษดังกล่าวขึ้นไปสะสมในอากาศมาอย่างยาวนานในฤดูร้อน ขณะเดียวกันช่วงนี้มีความพยายามจะผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับปัญหาวิกฤตพลังงานในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในฤดูร้อน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เคยออกมาสร้างกระแสตื่นตระหนกเรื่องการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และกฟผ. ได้เร่งไปตรวจสอบ และพิสูจน์ทราบปัญหารีบชดเชยเยียวยา และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้แก่ชาวบ้านโดยด่วน เพื่อทุเลาปัญหาและลดความเคลือบแคลงใจ และทำการตรวจสอบสภาพของโรงไฟฟ้าว่าได้ปล่อยมลพิษออกสู่บรรยากาศจนเกิดการสะสมตัว จนนำไปสู่การเกิดฝนกรดจริงตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียน และได้รับผลกระทบหรือไม่ รวมทั้งพิจารณาเพิกถอนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินออกจากแผนพัฒนาไฟฟ้า หรือแผน PDP 2010 หากรัฐบาลและ กฟผ. ยังเพิกเฉย สมาคม และชาวบ้านที่เดือดร้อนจะนำเรื่องนี้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองทันที
อนึ่ง ในอดีตพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อ.แม่เมาะ เคยเกิดเหตุการณ์ฝนกรดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ครั้งที่รุนแรงที่สุด คือ ปี 2535 ทำให้ผลผลิตทางการเกษตร สัตว์เลี้ยง ประชาชนได้รับผลกระทบจนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีกันมาอย่างยาวนานนับสิบปี ซึ่งขณะนี้เรื่องยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด กรณีดังกล่าวทำให้ชาวบ้าน ต.นาสัก เริ่มสงสัยกันว่า กระเทียม และพืชผักอาจจะเจอปัญหาเดียวกับเหตุการณ์เมื่อปี 2535 หรือไม่
