นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน รับมอบอำนาจชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 ฟ้องผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม และผู้อำนายการเขตจตุจักร เรียกร้องค่าเสียหาย 3 แสน เหตุได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการคั่วพริก-คั่วเกลือปรุงอาหารเลี้ยงผู้ต้องขัง ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้ว
วันนี้ (18 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน รับมอบอำนาจนางพวงเพ็ญ สร้อยสนธิ อายุ 75 ปี อดีตข้าราชการโรงพยาบาลตากสิน ยื่นฟ้องผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม และผู้อำนายการเขตจตุจักร เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 ต่อแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลปกครองกลาง กรณีที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นปรุงอาหารที่มีกลิ่นจากการคั่วพริก-คั่วเกลือฟุ้งกระจายไปทั่วตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องหยุดการกระทำใดๆ ที่ก่อให้ความเดือดร้อนที่จะเป็นเหตุให้เกิดโรคทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้กัน และให้ผู้ถูกฟ้องชดใช้ค่าเสียหายให้เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า เรื่องนี้สมาคมได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร ว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญอย่างหนักจากการที่เรือนจำคลองเปรมปล่อยให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำและปรุงอาหารเลี้ยงผู้ต้องขังใกล้ชุมชนหมู่บ้านประชาชน ทำให้กลิ่นเหม็นจากการคั่วพริก-คั่วเกลือฟุ้งกระจายไปทั่วตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนมานานนับปี จนชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมานเป็นโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้กันเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาร้องเรียนเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของระบบราชการ แม้จะร้องเรียนไปยังเขตจตุจักรให้จัดการแก้ไขปัญหาให้แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งสมาคมฯ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านเดือดร้อนและเสียหายจริง ที่เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมายื่นฟ้อง ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้วเป็นคดีหมายเลขดำที่ ส.246/2556
“คดีดังกล่าวอยากจะใช้เป็นบทเรียนสั่งสอนหน่วยงานของรัฐทุกกระทรวง ทบวง กรม และองค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศที่มักละเว้นเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนของชาวบ้าน ไม่ยอมกระตือรือร้นหรือเอาใจใส่ที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านให้ลุล่วงโดยเร็ว เพราะอาจจะคิดว่ามีอำนาจทางปกครองเหนือกว่า ชาวบ้านคงไม่กล้าหือ” นายศรีสุวรรณกล่าว