สมาคมต่อต้านโลกร้อน ฟ้องศาลปกครอง สั่ง ทอท.ควบคุมปริมาณผู้โดยสารใช้สนามบินสุวรรณภูมิปีละไม่เกิน 45 ล้านคนต่อปี ตามเงื่อนไขอีไอเอ หลังปล่อยผู้โดยสารใช้บริการสูงถึง 54 ล้านคน เกินความสามารถท่าอากาศยานฯ หากฝ่าฝืนให้ปรับ 10 เท่าของอัตราค่าบริการที่เรียกเก็บจากสายการบิน
วันนี้ (25 ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวม 406 ราย ได้เดินทางมายื่นฟ้อง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต่อศาลปกครองกลาง เนื่องจากไม่ควบคุมดูแลปริมาณผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้อยู่ในเงื่อนไขของรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ที่ระบุว่าจำนวนผู้โดยสารต้องไม่เกิน 45 ล้านคนต่อปี แต่ ทอท.กลับปล่อยปละละเลยให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการมากถึง 54 ล้านคนต่อปี ซึ่งเกินความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะรองรับได้
อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อผู้ถูกฟ้องที่เป็นชาวบ้าน ทั้งด้านมลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ มลพิษจากน้ำเสีย มลพิษจากขยะ ปัญหาการจราจร ปัญหาแรงสั่นทางคลื่นอากาศและแรงอัดจากการขึ้นลงของเครื่องบิน รวมทั้งเพิ่มปัญหาการทำลายและรบกวนคลื่นสัญญาณรับภาพจากโทรทัศน์และสัญญาณเสียงจากเครื่องมือสื่อสารของประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อผู้ฟ้อง
จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ ทอท.ควบคุมดูแลปริมาณผู้โดยสารไม่ให้เกิน 45 ล้านคนต่อปี หากฝ่าฝืนให้ปรับเงิน 10 เท่าของอัตราค่าบริการที่เรียกเก็บจากสายการบิน โดยให้นำเงินค่าปรับดังกล่าวตั้งเป็นกองทุนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการฝ่าฝืนของ ทอท. และให้ติดตั้งเครื่องวัดมลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง และความสั่นสะเทือนแบบถาวร พร้อมมีระบบเฝ้าติดตามตลอด 24 ชั่วโมงไม่ต่ำกว่า 30 จุดด้วย รวมถึงให้ศาลสั่งให้ ทอท.ชำระค่าเสียหายทางละเมิดหรือค่าเสียหายอื่นที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายทางด้านร่างกาย จิตใจ และการเสียโอกาสของชาวบ้านที่ฟ้องคดีทุกรายพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
