“อลงกรณ์” เรียกร้องรัฐบาล ประสาน พม่า เลื่อนซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะยาดานา-เยตากุล จาก 4 เม.ย.เป็น 6 เม.ย. เลี่ยงวันที่ไทยต้องใช้ไฟสูงสุด ห่วงไฟสำรองในประเทศหดเหลือแค่ 2% กระทบความมั่นคงด้านพลังงาน งง รมว.พลังงาน ขาดความกระตือรือร้นเตรียมแผนรับมือ ทั้งที่เป็นการซ่อมบำรุงประจำปี กลับประกาศภาวะฉุกเฉินด้านไฟฟ้าแทน แนะทำแผนปฏิบัติการตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.ถึงสิ้นเดืิอน เม.ย.
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งจะกระทบความมั่นคงของประเทศด้านพลังงานอันเนื่องมาจากการหยุดบำรุงแท่นขุดเจาะยาดานา-เยตากุลของประเทศพม่า ในวันที่ 4-12 เมษายน 2556 ซึ่งทำเป็นประจำทุกปีโดยจะกระทบต่อการส่งไฟฟ้ามาไทย 1,100 พันลูกบาศก์ฟุตว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ไทยจะใช้ไฟฟ้าสูงสุด โดยเฉพาะวันที่ 4 เมษายน ที่คาดการณ์ว่าจะมีการใช้ไฟสุงสุดถึง 26,500 เมกะวัตต์ ซึ่งการใช้ไฟสุงสุดดังกล่าวจะทำให้ไฟสำรองในประเทศเหลือเพียง 2% หรือประมาณ 500 เมกะวัตต์เท่านั้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุกับโรงไฟฟ้าแห่งใดแห่งหนึ่งอาจทำให้ไฟดับทั้งประเทศได้
นายอลงกรณ์กล่าวว่า การที่ รมว.พลังงานแจ้งว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินไฟฟ้า โดยยอมรับว่ายังไม่มีแนวทางรับมืออย่างชัดเจนเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการจัดทำแผนโดยเร็ว จึงขอเรียกร้องทางรัฐบาลโดยเฉพาะ รมว.พลังงานให้เร่งทำแผนปฏิบัติการฉุกเฉินโดยเริ่มต้นแผนตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิ้นเดือนเมษายน เพราะสถานการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบรุนแรงกว้างขวางทั่วประเทศ การซ้อมเฉพาะวันที่ 13 มีนาคม 2556 ไม่เพียงพอ แต่ต้องซ้อมหลายครั้ง และขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชน ภาคครัวเรือน เพื่อให้รณรงค์เตรียมความพร้อมรับมือและร่วมกันประหยัดพลังงานใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป และ รมว.พลังงานต้องเป็นผู้เจรจากับพม่าด้วยตัวเองไม่ใช่ให้ข้าราชการระดับอธิบดีไปดำเนินการโดยขอเลื่อนการซ่อมจากวันที่ 4 เมษายนไปเป็นวันที่ 6 เมษายน และนายกรัฐมนตรีควรจะไปเจรจากับประธานาธิบดีของพม่าด้วย
อีกทั้งต้องเสนอแผนสนับสนุนส่งทีมไทยแลนด์เข้าไปสนับสนุนการซ่อมดังกล่าว เพราะพม่าซ่อมทุกปีเช่นนี้ก่อนสงกรานต์จึงเห็นว่าควรมีทีมเสริมเข้าไป นอกจากนี้ขอให้เริ่มแผนเพิ่มกำลังสำรองไฟฟ้าโดยการเดินเครื่องซ้อมโรงไฟฟ้าเก่าที่ปิดใช้โดยไม่ต้องรอไปถึงเดิอนมีนาคม เนื่องจากจำเป็นต้องมีการซ้อมเดินเครื่องเป็นระยะ และสำรองเชื้อเพลงทางเลือกเพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าเอกชนด้วยอย่าคิดสำรองแค่โรงไฟฟ้าภาครัฐเท่านั้น
นายอลงกรณ์กล่าวว่า มีความกังวลและห่วงใยที่รัฐบาลจะปล่อยให้กำลังสำรองไฟฟ้าเหลือเพียง 2% จึงอยากให้รัฐบาลกระตือรือร้นในการประสานกับประเทศพม่าทันทีโดยดูประสบการณ์การรับมือในปี 2551-2555 แล้วนำมาแก้ไขปัญหา