บุรีรัมย์ - ตร.ขออนุมัติศาลออกหมายจับแก๊งคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกถล่ม ร.ร.บุรีรัมย์บริบาลอีก 9 คน พร้อมค้านประกันตัว“ช่างวิน” ผู้จ้างวานในชั้นศาลและขอฝากขังเพิ่มผลัด 2 หวั่นข่มขู่พยานทำลายหลักฐานพร้อมเตรียมแจ้งเพิ่ม “พยายามฆ่า” อีกข้อหา เผยสอบพบเชื่อมโยงคดีใช้มีดฟันหน้า ผอ.โรงเรียนปีที่แล้วและบุกถล่มโรงเรียนที่อุบลฯถึง 7 ครั้ง
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์และวัยรุ่นกว่า 10 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าใช้อาวุธมีดบุกถล่มโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่เปิดสอนหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล เพื่อหวังทำร้าย นายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ขณะกำลังปฐมนิเทศนักศึกษา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมาอย่างอุกอาจ นั้น
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีเพิ่มอีกจำนวน 9 คนแล้ว ประกอบไปด้วย นายไพฑูรย์ จันทร์เชียร หรือ แป๊ะ อายุ 31 ปี , นายศราวุธ โพธิ์ลักษณ์ หรือต่าย อายุ 30 ปี , นายวิเชียร สมศักดิ์ หรือ ตี๋กิโล 7 อายุ 29 ปี (เคยเข้ามอบตัวเองและอ้างเป็นผู้บงการจ้างวาน) , นายศักดิ์ดา แก้วศรี หรือ เด่น อายุ 26 ปี , นายอำนาจ พงษ์กระโทก หรือ เอิร์ท อายุ 19 ปี , นายทรงพล มีเงิน อายุ 19 ปี , นายวิสิทธิ์ชัย เดชผักแว่น หรือ อุ้ม อายุ 19 ปี , นายพิสิทธิ์ ดาววัฒนะทรัพย์ หรือแทน อายุ 19 ปี (ลูกชาย นายพสิทธิ์ ดาววัฒนะทรัพย์ หรือ ช่างวิน ผู้ต้องหาจ้างวาน ) และ นายเต้ย ไม่ทราบชื่อและ นามสกุลจริง
โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานหรืออาคารสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น ,โดยไมมีเหตุอันควร ,โดยมีอาวุธ , พาอาวุธมีด และโดยใช้กำลังประทุษร้าย” ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา จ.อุบลราชธานี และ จ.บุรีรัมย์
พร้อมกันนี้ยังจะส่งหมายจับพร้อมรูปถ่ายผู้ต้องหาทั้งหมด ไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ตำรวจภูธรภาค 3 และ สถานีตำรวจจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วน นายพสิทธิ์ ดาววัฒนะทรัพย์ หรือ ช่างวิน เจ้าของอู่เคาะพ่นสีรถยนต์ อู่ซ่อมรถยนต์และเจ้าของโรงเรียนคู่แข่งโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ที่ถูกตำรวจนำหมายศาลเข้าจับกุมตัวก่อนหน้านี้ ในข้อหา ใช้จ้างวานยุยงส่งเสริมให้กระทำผิด และถูกนำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดบูรีรัมย์ซึ่งจะครบกำหนดฝากขังผลัดแรกในวันอาทิตย์ 24 มี.ค. นี้นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลพร้อมทำเรื่องฝากขังเพิ่มผลัด 2 แล้ว เพราะคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของสังคม อีกทั้งมีพฤติการณ์ก่อเหตุอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงเกรงว่าหากให้ประกันตัวออกไป อาจไปข่มขู่พยานและทำลายหลักฐานทำให้กระทบต่อรูปคดีได้ นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังจะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา “พยายามฆ่า” กับ นายพสิทธิ์ เพิ่มอีก 1 ข้อหาด้วย
พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเฉพาะคำให้การของเยาวชนที่ถูกชักจูงมาร่วมก่อเหตุ ได้ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์มาก ทำให้มั่นใจว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสาวถึงตัวผู้บงการและเอาผิดตามกฎหมายได้
นอกจากนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังพบข้อมูลเชื่อมโยงว่า นายวิเชียร หรือ ตี๋กิโล 7และ นายศักดิ์ดา หรือ เด่น ได้ก่อเหตุใช้มีดบุกฟันหน้า นายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาลเมื่อปีที่แล้ว จนได้รับบาดเจ็บเย็บร่วม 100 เข็มและยังเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกถล่มโรงเรียนเซ็นทรัลบริรักษ์อินเตอร์ ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาลที่จ.อุบลราชธานี ถึง 7 ครั้งและทำร้ายผู้อำนวยการโรงเรียนจนได้รับบาดเจ็บด้วย โดยมีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้จ้างวานและกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย
“สำหรับเยาวชนที่ได้กันตัวไว้เป็นพยานได้ถูกผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีโทรศัพท์ไปข่มขู่จะทำร้ายหากให้ข้อมูลกับตำรวจหรือให้การพาดพิงนั้น กรณีดังกล่าวได้ประสานให้ตำรวจท้องที่ ไปดูแลความปลอดภัยให้กับเยาวชนที่ถูกข่มขู่แล้ว” พ.ต.อ.วิรัตน์ กล่าว
