บุรีรัมย์ - วัยรุ่นร่วมก่อเหตุใช้อาวุธมีดบุกถล่ม ร.ร.บุรีรัมย์บริบาล เข้ามอบตัวอีก 1 คน ส่วนอีก 6 คนจ่อออกหมายจับ ขณะรองผู้การรับผิดชอบคดียัน พยานหลักฐานเอาผิด “ช่างวิน” ฐานผู้จ้างวาน เตรียมเพิ่มข้อหา “พยายามฆ่า”
วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีกลุ่มเยาวชนกว่า 10 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธมีด บุกโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หวังทำร้ายผู้อำนวยการโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ขณะปฐมนิเทศนักศึกษาก่อนเปิดเรียนวันแรกเมื่อเช้าวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ล่าสุดผู้ปกครองได้พานายอธิบดี ศรีจงกล หรือโทน อายุ 20 ปี หนึ่งในวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุ เข้ามอบตัว พร้อมให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง โดยมี พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดให้ดูแลรับผิดชอบคดี เป็นผู้ควบคุมการสอบปากคำด้วยตนเอง
พร้อมกันนี้ยังได้นำตัวเยาวชนที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้มาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดีด้วย สำหรับเยาวชนที่เข้ามอบตัวและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เจ้าหน้าที่จะกันตัวไว้เป็นพยาน
จากการสอบปากคำเยาวชน ให้การว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 14 คน ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงเรียนยิงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 คน เข้ามอบตัวแล้ว 3 คน และกำลังติดต่อมอบตัวอีก 1 คน ที่เหลืออีก 6 คนยังหลบหนีอยู่ ประกอบด้วย นายศักดิ์ดา แก้วศรี อายุ 26 ปี (คนขับรถ) นายไพฑูรย์ จันทร์เชียร อายุ 31 ปี นายทรงพล มีเงิน อายุ 19 ปี นายเต้ย (ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง) นายต่าย (ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง) และนายอุ้ม (ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง)
ทั้งนี้ หากไม่ติดต่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานผู้อื่นโดยมีอาวุธ และโดยใช้กำลังประทุษร้าย
ส่วนนายพสิทธิ์ ดาววัฒนทรัพย์ หรือช่างวิน อายุ 45 ปี เจ้าของอู่ซ่อมเคาะพ่นสีรถยนต์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และเจ้าของโรงเรียนคู่แข่งกับโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ผู้ต้องหาใช้จ้างวานยุยงส่งเสริมกระทำผิด ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์
พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคำให้การของกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีค่อนข้างมาก เพราะส่วนใหญ่ให้การตรงกัน ซึ่งขอยืนยันว่าพยานหลักฐานทั้งหมดสามารถเอาผิดนายพสิทธิ์ฐานจ้างวานได้แน่นอน ทั้งยังเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าเพิ่มด้วย ส่วนที่คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ อีกทั้งป้องกันไม่ให้มาข่มขู่พยาน