นครปฐม - ตำรวจ สภ.ดอนตูม ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองวางแผนรวบผู้ต้องหา 2 แม่ลูกค้ายาเสพติดคาบ้านพัก ได้ยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด ยาไอซ์อีก 2 กิโลกรัม พร้อมพบหนังสือสัญญาเงินกู้มูลค่า 5 ล้านบาท ผู้ต้องหาสารภาพ “ใครมารับยานรกต้องให้เขียนหนังสือสัญญาเงินกู้ไว้เพื่อเคลียร์เงิน”
วันนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.อ.วิเชียร รัตติทิวาพาณิชย์ ผกก.สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม พร้อม พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส.สภ.ดอนตูม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ดอนตูม นายพิษณุ พลอยสุข นายอำเภอดอนตูม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กว่า 20 นาย ได้เข้าร่วมปิดล้อมบ้านเลขที่ 114 ม.1 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก
เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัว และขอตรวจสอบ แต่นายธนวัตร โตผลวิเศษ หรือปาน อายุ 37 ปี เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังมาหลายนาย จึงได้กระโดดหนีจากหน้าต่างชั้น 2 ของบ้านเพื่อจะหลบหนีจนได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ จากนั้นได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบ นางสมฤดี ไชยนาพันธุ์พิพัฒน์ อายุ 62 ปี มารดาของนายธนวัตร อยู่ภายในบ้าน
จากการตรวจค้นภายในห้องนอนชั้นหนึ่งของบ้าน พบกระเป๋าเดินทางสีดำ ภายในกระเป๋าพบมียาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม ยาบ้า 100,000 เม็ด เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง ส่วนในถังข้าวสาร และเครื่องซักผ้าพบยาบ้าอีก 101,000 เม็ด ยาไอซ์อีก 2 กิโลกรัม รวมของกลางยาบ้า 201,000 เม็ด ยาไอซ์ 3 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง บัตรเอทีเอ็ม 20 ใบ เงินสดจำนวน 30,000 บาท พระห้อยคอ 9 องค์ และใบเอกสารเงินกู้กว่า 5 ล้านบาท จากสอบสวนอย่างละเอียดผู้ต้องหาสารภาพว่า ใบสัญญาเงินกู้นั้นจะเป็นสัญญาเงินกู้ที่ทำไว้สำหรับลูกค้าที่มารับยาบ้าไปเสพ และจำหน่ายเพื่อจะได้ติดตามหนี้สินได้ถูกกฎหมาย
ต่อมา พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 และ พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ ผกก.สส.1 ภ.7 ได้เดินทางเข้าร่วมตรวจค้น ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่าเมื่อปี 2545 ที่ผ่านมา บิดาพร้อมด้วยพี่ชายของนายธนวัตร ได้เคยถูกจับยาบ้า จำนวน 500,000 เม็ด พร้อมเครื่องผลิตในเขต อ.ดอนตูม มาแล้ว และถูกดำเนินคดีจำคุกตลอดชีวิต ขณะนี้ยังอยู่ในเรือนจำเขาบิน จังหวัดราชบุรี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้สืบดูพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มาตลอด จนกระทั่งมั่นใจว่า นายธนวัตร มีพฤติกรรมพัวพันกับยาเสพติด และได้วางแผนในการจับกุมมาได้
ด้านนายธนวัตร ได้ให้การว่า ตนเองรับยาบ้ามาจากหญิงคนหนึ่งเรียกชื่อว่า นางดาว บางเลน ซึ่งไม่เคยเจอตัว และไม่เคยเห็นหน้า เวลาที่ตนจะไปรับยาเสพติดตนจะเดินทางไปเปิดโรงแรมเข้าพัก จากนั้นนางดาว จะนำยาเสพติดมาวางไว้หน้าห้อง พร้อมโทร.บอกให้มารับยาเสพติดไปข่ายส่งลูกค้า
ทางด้าน นางสมฤดี ผู้เป็นมารดาก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่รู้ไม่เห็น อีกทั้งยังร่ำไห้พร้อมต่อว่าลูกชายตลอดเวลาว่า ทำให้ตนเดือดร้อน ขณะเดียวกัน ได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้เข้ามาในเหตุการณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากพบว่าเป็นพระสงฆ์ที่นายธนวัฒน์ คอยดูแลยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญไปสอบปากคำเพื่อขยายผลว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
เบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหานายธนวัตร ครอบครองยาเสพติดให้โทษเพื่อจำหน่าย ส่วนนางสมฤดี มารดาถูกตั้งข้อกล่าวหา ร่วมสมคบการกระทำความผิดและเตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
วันนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.อ.วิเชียร รัตติทิวาพาณิชย์ ผกก.สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม พร้อม พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส.สภ.ดอนตูม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ดอนตูม นายพิษณุ พลอยสุข นายอำเภอดอนตูม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กว่า 20 นาย ได้เข้าร่วมปิดล้อมบ้านเลขที่ 114 ม.1 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก
เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัว และขอตรวจสอบ แต่นายธนวัตร โตผลวิเศษ หรือปาน อายุ 37 ปี เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังมาหลายนาย จึงได้กระโดดหนีจากหน้าต่างชั้น 2 ของบ้านเพื่อจะหลบหนีจนได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ จากนั้นได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบ นางสมฤดี ไชยนาพันธุ์พิพัฒน์ อายุ 62 ปี มารดาของนายธนวัตร อยู่ภายในบ้าน
จากการตรวจค้นภายในห้องนอนชั้นหนึ่งของบ้าน พบกระเป๋าเดินทางสีดำ ภายในกระเป๋าพบมียาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม ยาบ้า 100,000 เม็ด เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง ส่วนในถังข้าวสาร และเครื่องซักผ้าพบยาบ้าอีก 101,000 เม็ด ยาไอซ์อีก 2 กิโลกรัม รวมของกลางยาบ้า 201,000 เม็ด ยาไอซ์ 3 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง บัตรเอทีเอ็ม 20 ใบ เงินสดจำนวน 30,000 บาท พระห้อยคอ 9 องค์ และใบเอกสารเงินกู้กว่า 5 ล้านบาท จากสอบสวนอย่างละเอียดผู้ต้องหาสารภาพว่า ใบสัญญาเงินกู้นั้นจะเป็นสัญญาเงินกู้ที่ทำไว้สำหรับลูกค้าที่มารับยาบ้าไปเสพ และจำหน่ายเพื่อจะได้ติดตามหนี้สินได้ถูกกฎหมาย
ต่อมา พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 และ พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ ผกก.สส.1 ภ.7 ได้เดินทางเข้าร่วมตรวจค้น ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่าเมื่อปี 2545 ที่ผ่านมา บิดาพร้อมด้วยพี่ชายของนายธนวัตร ได้เคยถูกจับยาบ้า จำนวน 500,000 เม็ด พร้อมเครื่องผลิตในเขต อ.ดอนตูม มาแล้ว และถูกดำเนินคดีจำคุกตลอดชีวิต ขณะนี้ยังอยู่ในเรือนจำเขาบิน จังหวัดราชบุรี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้สืบดูพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มาตลอด จนกระทั่งมั่นใจว่า นายธนวัตร มีพฤติกรรมพัวพันกับยาเสพติด และได้วางแผนในการจับกุมมาได้
ด้านนายธนวัตร ได้ให้การว่า ตนเองรับยาบ้ามาจากหญิงคนหนึ่งเรียกชื่อว่า นางดาว บางเลน ซึ่งไม่เคยเจอตัว และไม่เคยเห็นหน้า เวลาที่ตนจะไปรับยาเสพติดตนจะเดินทางไปเปิดโรงแรมเข้าพัก จากนั้นนางดาว จะนำยาเสพติดมาวางไว้หน้าห้อง พร้อมโทร.บอกให้มารับยาเสพติดไปข่ายส่งลูกค้า
ทางด้าน นางสมฤดี ผู้เป็นมารดาก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่รู้ไม่เห็น อีกทั้งยังร่ำไห้พร้อมต่อว่าลูกชายตลอดเวลาว่า ทำให้ตนเดือดร้อน ขณะเดียวกัน ได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้เข้ามาในเหตุการณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากพบว่าเป็นพระสงฆ์ที่นายธนวัฒน์ คอยดูแลยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญไปสอบปากคำเพื่อขยายผลว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
เบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหานายธนวัตร ครอบครองยาเสพติดให้โทษเพื่อจำหน่าย ส่วนนางสมฤดี มารดาถูกตั้งข้อกล่าวหา ร่วมสมคบการกระทำความผิดและเตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป