พิษณุโลก - ชาวบ้านบางระกำ ก้มหน้ารับชะตากรรม หลังชลประทานเดินหน้าขุดลอกบึงระมาณที่เป็นทั้งที่ทำกิน-ที่ตั้งบ้านเรือนชาวบ้านมานาน ตามแผน “บางระกำโมเดล” เดินหน้าไม่หยุด ล่าสุด ส่งเครื่องจักรกลลุยขุดลอกแล้ว ใกล้ถึงตัวบ้านที่ปลูกกลางบึงแล้ว 1 หลัง แถมเจอผู้นำท้องถิ่นที่กลายเป็นผู้รับเหมาขู่แจ้งจับซ้ำหากคัดค้าน
วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางรัก ธานี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 6 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่มีบ้าน และที่ทำกินอยู่ในเขตบึงระมาณที่กำลังถูกขุดลอกเป็นแก้มลิง ตามแผน “บางระกำโมเดล” ว่า ขณะนี้ชลประทานได้เข้ามาขุดลอกบริเวณที่ทำกินของตนโดยไม่ได้รับเงินชดเชย เช่นเดียวกับชาวบ้านอีก 30 ราย ที่ตกอยู่สภาพเดียวกัน แต่ไม่รู้จะคัดค้านอย่างไรแล้ว เพราะที่ผ่านมา เคยไปร้องศาลปกครองพิษณุโลก ศาลรับเรื่องเมื่อรับวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ตามคดีหมายเลขดำ ที่ 34/2556 แต่ศาลสั่งยกคำร้อง ทำให้ชลประทานเข้าทำงานขุดบึงระมาณซึ่งเป็นที่ดินของตนที่ทำกินมานาน ส่วนผู้นำท้องถิ่นกลายเป็นผู้รับเหมา เมื่อชาวบ้านขัดขวางก็ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับ ฐานขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
“ทุกวันนี้อยากฆ่าตัวตาย จะให้รถแบ็กโฮขุดดินฝังแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะชาวบ้านพามากลับบ้าน อยากสละชีวิตเพื่อบอกไปถึงรัฐบาล ถึงนายกรัฐมนตรีว่า เหลียวมองคนจนที่ไม่มีเงินรายได้อย่างอื่นบ้าง หนี้สินก็มี ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรก็กว่า 4 แสนบาท วันนี้ไม่มีที่ดินทำนาแล้ว ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนไปใช้หนี้ วอนรัฐบาลช่วยด้วย อย่างน้อยก็ชดเชย หรือทดแทนบ้าง เพราะได้รับผลกระทบจากโครงการบางระกำโมเดล”
นางรัก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานที่ดินจังหวัด สาขาบางระกำ เข้ามารังวัดที่ดินโครง คิดค่ารังวัด 40 บาท ค่าหลักเขต 60 บาท ค่าใช้จ่ายอื่น 100 บาท ค่าป่วยการเจ้าหน้าที่ผู้ปกครองท้องที่ 50 บาท ค่าพาหนะและค่าจ้างคนงานอีก 2,640 บาท รวมเป็นเงิน 2,890 บาท ผลรังวัดพบว่า ที่ดินมีทั้งหมด12 ไร่ 1 งาน 90 วา แต่ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเสียเงินแล้วที่นาก็ถูกขุดทำแก้มลิงอยู่ดี”
นางสังวาลย์ รอดเผือก อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ ซึ่งมีที่ดินทำกินอยู่ในบึงระมาณซึ่งกำลังถูกขุดลอก กล่าวว่า ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว เพราะผู้นำท้องถิ่นเมินเฉย อยากขอให้นายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยชาวบ้านบ้าง ตนไม่มีที่ดินทำนา ไม่ได้เงินชดเชย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเหตุที่เสียสละที่ดินทำกินไปแก้มลิง
นายไพโรจน์ ไชยนาวา อายุ 52 ปี ชาว อ.บางระกำ กล่าวว่า มีบ้านอยู่ในบึงระมาณจะต้องสูญเสียไปด้วย วันนี้ตนปลูกผัก แตงไทย ฟักทอง มีรายได้วันละ 300-500 บาท พอเลี้ยงครอบครัว แม้เป็นโรคไต เป็นอัมพฤกษ์ ต้องแบกรับภาระดูแลลูกสาว คือ ด.ญ.พรพิมล ไชยนาวา อายุ 13 ปี ที่ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แต่ชลประทานกำลังขุดดินรอบบ้านที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันอีก 7 หลัง โดยเว้นบ้านตนไว้ก่อน ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ไหน คงต้องทนอยู่ที่นี่ให้นานที่สุด หรือจนกว่ามีผู้ใจบุญมาช่วยหาที่อยู่ใหม่
“ไม่รู้ไปคัดค้านอย่างไร ฟ้องศาลปกครองก็แพ้มาแล้ว คงต้องทำใจ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานขุดลอกบึงระมาณเป็นไปตามโครงการ “บางระกำโมเดล” ซึ่งชลประทานจังหวัดพิษณุโลก จะขุดลอกบึงระมาณ ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก 1,800 ไร่ ตามแผน 3 ปี 2555-2557 วงเงิน 339 ล้านบาท เพื่อกักเก็บน้ำ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ชาวบ้านบางระกำที่เคยทำกินมาก่อนอ้างเอกสารสิทธิ ส.ค.1 และน.ส.3 ที่ทำนาในบึงมานับสิบปี กระทั่งเคยยื่นขอออกโฉนด แต่ไปทับซ้อนกับหนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) บึงระมาณ 3 ,000 ไร่
ทั้งนี้ ชาวบ้าน 26 คน เคยยื่นเรื่องร้องต่อศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลกให้ระงับขุดลอกแก้มลิงบึงระมาณ แต่ศาลยกคำร้อง