xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีเอฟผลิตไบโอดีเซลใช้เองในโรงงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาตรี รชตะสมบูรณ์
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -ซีพีเอฟ เดินหน้าตัดวงจรน้ำมันทอดซ้ำ ผลิตไบโอดีเซลใช้ในโรงงานสร้างพลังงานทดแทน พร้อมห่วงใยผู้บริโภค

ท่ามกลางภาวะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตที่มาจากค่าขนส่ง และการขนย้าย ซึ่งใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซลเป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านมา ภาคส่วนต่างๆ จึงเร่งศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทน ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัดสระบุรี ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ที่โดดเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงานเป็นพิเศษ เห็นได้จากโครงการด้านพลังงานมากมาย ทั้งโครงการรณรงค์การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การลดใช้พลังงานในโรงงาน หรือแม้แต่โครงการขนาดใหญ่อย่างโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม (Co-Gen) และโรงผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว

โครงการนี้น่าสนใจตรงที่น้ำมันที่ผลิตได้เป็นน้ำมัน B100 ที่สามารถใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลสำหรับรถบรรทุก รถโฟล์คลิฟต์ และรถกระบะเครื่องยนต์คอมมอนเรลของโรงงานได้ 100% โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ และยังไม่เคยพบปัญหากับเครื่องยนต์เลย ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา

นายชาตรี รชตะสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ บอกถึงที่มาของโครงการนี้ว่า โรงงานซีพีเอฟสระบุรีมีการผลิตสินค้าประเภทไก่ทอด ทำให้มีน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการผลิตเกิดขึ้น บริษัทจึงได้ศึกษากระบวนการผลิตพลังงานทดแทนจากน้ำมันพืชใช้แล้วอย่างจริงจัง และสร้างโรงงานผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้วเมื่อปี พ.ศ.2550 ที่สามารถรองรับน้ำมันพืชใช้แล้วที่ 100,000 ลิตรต่อเดือน โดยได้รับความช่วยเหลือด้านองค์ความรู้จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ปัจจุบัน โรงงานซีพีเอฟสระบุรี มีกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้ร่วม 80,000 ลิตรต่อเดือน ทำให้สามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดีเซลปริมาณ 9 แสนลิตรต่อปี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นมูลค่า 2.7 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ ยังได้จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตได้ให้แก่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ และฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อของบริษัทในราคาต่ำกว่าทั่วไป ถือเป็นการช่วยองค์กรในการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิงอีกทางหนึ่ง ที่สำคัญ จากการตรวจสอบเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนหลังการใช้งานอยู่เป็นประจำ ยังพบว่า สามารถนำน้ำมันมาใช้ได้โดยไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์

“นอกจากไบโอดีเซลที่ผลิตได้นี้จะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานแล้ว ยังเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นปริมาณมากถึง 1,847 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี นับเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ ยังเท่ากับสนับสนุนไม่ให้มีการนำน้ำมันพืชใช้แล้วกลับมาบริโภคซ้ำ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้บริโภค เพราะในน้ำมันดังกล่าวมีสารก่อมะเร็ง อย่างอนุมูลอิสระและไดออกซิน รวมทั้งสารเคมีอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการประกอบอาหารที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ถือเป็นอีกความภูมิใจหนึ่งที่ซีพีเอฟได้มีส่วนในการปกป้องสุขภาพของผู้บริโภค” นายชาตรีกล่าว

ไม่เพียงโรงงานซีพีเอฟสระบุรี ที่นำน้ำมันใช้แล้วมาเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทน ยังต่อยอดโครงการดีๆ เช่นเดียวกันนี้ไปสู่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้ถึง 744,000 ลิตรต่อปี ล่าสุด โรงงานแปรรูปเนื้อไก่และอาหารแปรรูป มีนบุรี 1 ได้ตั้งโรงผลิตน้ำมันไบโอดีเซลขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตได้ถึงปีละ 600,000 ลิตรต่อปี เท่ากับว่าซีพีเอฟจะสามารถผลิตน้ำมัน B100 ได้ถึงกว่า 2,300,000 ลิตรต่อปี

นอกจากจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดีเซลเฉพาะในส่วนของโรงงานแปรรูปไก่ดังกล่าว และช่วยลดต้นทุนการผลิตจากราคาน้ำมันดีเซลที่มีราคาผันผวน และมีแนวโน้มที่สูงขึ้นทุกปี ยังสามารถตัดตอนน้ำมันทอดซ้ำไม่ให้กระจายสู่ชุมชน และผู้บริโภคคนไทยได้อย่างน่าชื่นชม

ทั้งนี้ หากหน่วยงาน หรือองค์กรใดที่สนใจขอเข้าศึกษากระบวนการผลิตไบโอดีเซลของโรงงาน ชาตรี บอกว่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถติดต่อขอเข้าชมได้ทุกโรงงานดังกล่าว ถือเป็นการให้ความรู้แก่สังคมอีกทางหนึ่ง



กำลังโหลดความคิดเห็น