อัคคีปราการฮอต เข้าซื้อขายวันแรกปิดหนือราคาจอง 4 บาท หรือเพิ่มขึ้น 200% ขณะราคาจองอยู่ที่ 2 บาท “วันชัย” ยิ้ม เชื่อนักลงทุนมั่นใจในผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง
บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ระดับ 5.85 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3.85 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 192.5% จากราคาจองที่ 2 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 6 บาทต่อหุ้น ปรับตัวต่ำสุดที่ระดับ 5.65 บาท และกลับมาเปิดตลาดที่ระดับ 6 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือเพิ่มขึ้น 200% มูลค่าการซื้อขาย 1,122.54 ล้านบาท
นายวันชัย เหลือวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP กล่าวว่า ราคาหุ้นของบริษัทเทรดวันแรกวันนี้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองถึงกว่า 190% ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้มาก รู้สึกดีใจที่นักลงทุนมั่นใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องปีละ 30-40%
“ราคาหุ้นวันนี้เกินความคาดหมายที่นักลงทุนให้ความมั่นใจเข้ามาลงทุน ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 6 บาท จากผลประกอบการความสามารถการเติบโตกำไร และแนวโน้มการเติบโตของรายได้แต่ละปีจากนี้ไปจะเพิ่มขึ้ยน 30-40%”
สำหรับปี 2555 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30-40% จากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 283.46 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 50.04 ล้านบาท 9 เดือนบริษัทมีรายได้ 258.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 33.66 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิ
บริษัทจะเสนอขายหุ้นครั้งนี้ จำนวน 84 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ราคาหุ้นละ 2 บาท ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ 168 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ และเพิ่มจำนวนรถขนส่งขยะ จำนวน 15 คัน โดยจากการที่บริษัทมีการเผาขยะด้วยความร้อนสูงนั้น บริษัทมีการเสนอเรื่องไปยังกรมโรงงาน ในการทำโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเพื่อพิจารณา เพราะรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ลงทุน
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นของ AKP เปิดซื้อขายวันแรกสูงกว่าราคาจองกว่า 190% เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมาก จากที่เป็นผู้ประกอบการเตาเผาขยะอุตสาหกรรมแห่งเดียวในประเทศไทย และอาเซียน ซึ่งถือว่าไม่มีคู่แข่ง
ดังนั้น ทำให้แนวโน้มการประกอบธุรกิจมีการเติบโตจำนวนมาก จากปัจจุบันที่มีโรงงานทั้งหมดกว่า 1 แสนโรงงาน ปัจจุบัน นำขยะอุตสาหกรรมมาเผาน้อยมาก นอกจากนี้ ช่วงที่บริษัทมีการเปิดให้จองซื้อหุ้นนั้น นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองล้นหลามเท่าทำให้เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น
