xs
xsm
sm
md
lg

“ซินโครตรอน” ทุ่มผลิต “เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง” สุดเจ๋ง ช่วยคนจนเข้าถึงการรักษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตัวอย่างเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็ง
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ก.วิทย์ทุ่ม 190 ล้าน ผลิตเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็ง โดยฝีมือนักวิจัยไทยเป็นครั้งแรก ดันไทยผงาดเป็นศูนย์กลางผลิตเครื่องแห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน ชี้คุณสมบัติสุดเจ๋งอำนาจทะลุทะลวงสูง ฉายเซลล์มะเร็งได้โดยตรง ไม่กระทบเซลล์ดีรอบข้างและค่าใช้จ่ายถูก ช่วยเหลือผู้ป่วยรายได้น้อยเข้าถึงการรักษา

ศาสตราจารย์ น.ท.ดร.สราวุฒิ สุจิตจร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สถาบันตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมามีเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งเดียวของไทยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ให้บริการแสงซินโครตรอนในงานวิจัยต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศ ล่าสุดสถาบันมีโครงการที่จะออกแบบและสร้างเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็ง (Medical linac) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อใช้ทดแทนการรักษาด้วยเคมีบำบัด

ทั้งนี้ เครื่องฉายรังสีดังกล่าวจะมีพลังงานและอำนาจการทะลุทะลวงสูง จึงสามารถฉายรังสีเข้าสู่เซลล์มะเร็งได้โดยตรง ทำให้เซลล์ดังกล่าวได้รับรังสีอย่างเต็มที่และสม่ำเสมอ จึงสามารถรักษามะเร็งได้โดยไม่ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อดีที่อยู่รายล้อมเซลล์มะเร็งได้รับความบอบช้ำมาก ซึ่งเป็นผลดีกว่าเครื่องฉายแสงด้วยโคบอลต์ 60 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่มีพลังงานต่ำทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเซลล์มะเร็งที่อยู่ลึกในร่างกายได้และต้องใช้ระยะเวลาในการฉายรังสีนานขึ้น ซึ่งส่งผลให้เซลล์เนื้อเยื่อดีรอบข้างได้รับความเสียหายไปด้วย

“เครื่องฉายรังสีชนิดที่จะผลิตขึ้นนี้สามารถใช้ในการรักษาโรคมะเร็งทั่วไป เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น ซึ่งพบมากในผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทย เครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคนี้จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อไป” ศาสตราจารย์ น.ท.ดร.สราวุฒิกล่าว

ศาสตราจารย์ น.ท.ดร.สราวุฒิกล่าวต่อว่า ต้นแบบเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็งที่จะพัฒนาขึ้นนี้ จะสามารถทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่อง และเป็นการสนับสนุนเสริมสร้างการวิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมการแพทย์สำหรับใช้ประโยชน์ได้จริง และสร้างบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงด้านเครื่องเร่งอนุภาคและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี ระหว่าง 1 ตุลาคม 2557 - 30 ก.ย. 2559 ใช้งบประมาณ 190 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนปีแรก 41 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบเร่งอิเล็กตรอน ระบบจ่ายกำลัง และโครงสร้างของเครื่องฉายรังสี ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลในการดำเนินโครงการดังกล่าว

“กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ คือ ผู้ป่วยมะเร็ง และประชาชนทั่วไปรวมถึงแพทย์ นักวิจัยด้านการแพทย์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำเนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่แพง และประเทศไทยจะมีต้นแบบเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็ง ทำงานที่ระดับพลังงาน 6 ล้านโวลท์ (6MV) ภายในระยะเวลา 3 ปี แ ละจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการสร้างบุคลากร การวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องฯของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต ตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศต่อไป” ศาสตราจารย์ น.ท.ดร.สราวุฒิกล่าวในตอนท้าย

อนึ่ง จากสถิติข้อมูลด้านสาธารณสุขของไทยพบว่า การเสียชีวิต 10 อันดับแรกในช่วงปี 2546-2550 โรคที่พบสูงขึ้น คือ โรคมะเร็งและเนื้องอก โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดในสมอง โรคเบาหวาน โรคตับและตับอ่อน โดยการรักษามะเร็งในประเทศไทยยังใช้การผ่าตัดและการใช้เคมีบำบัดเป็นหลักแต่ใช้ได้ผลดีกับมะเร็งในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง ส่วนการรักษาโดยใช้รังสีบำบัดนั้นยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากจำนวนสถานพยาบาลที่ให้บริการยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กระจุกตัวอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และราคาเครื่องฉายรังสีมีราคาสูงมากต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด

ส่งผลให้อัตราค่าบริการในการฉายรังสีแต่ละครั้งแพงมาก ทำให้ผู้มีรายได้ปานกลางถึงต่ำไม่มีกำลังในการจ่ายค่ารักษา และส่วนใหญ่ประชากรกลุ่มนี้มักป่วยด้วยโรคมะเร็งเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีแนวคิดในการสร้างเครื่องฉายรังสีชนิดเครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็งโดยฝีมือนักวิจัยไทยขึ้นครั้งแรกเพื่อแก้ไขปัญหานี้ดังกล่าว
หัวฉายรังสี เครื่องเร่งอนุภาคสำหรับรักษามะเร็ง
ศ.น.ท.ดร. สราวุฒิ สุจิตจร ผอ.สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน)
กำลังโหลดความคิดเห็น