ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อบต.ดอนแก้ว ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย 13 องค์กร ลงนามความร่วมมือป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่า พร้อมจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ ชุดลาดตระเวนสกัดไฟป่าและการเผาถึงสิ้น เม.ย. ขณะที่รองผู้ว่าฯ เผยครึ่งทาง 100 วันงดเผาพบฮอตสปอตลดลงจากปีก่อน 5 เท่า ส่งผลค่าฝุ่น PM10 เกินค่ามาตรฐานแค่วันเดียว แต่ยังต้องคุมเข้ม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว
วันนี้ (11 มี.ค.) นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์การป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ภายใต้ชื่อ “วันพลังองค์กรภาคีต้านไฟป่าและหมอกควัน ตำบลดอนแก้ว” และเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย 13 องค์กร ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ในช่วงระยะเวลา 100 วัน ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ไฟป่า หมอกควัน และภัยแล้ง ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
นายอดิศรกล่าวว่า ที่ผ่านมาจังหวัดและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันป้องกันแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างจริงจังจนเห็นผล เห็นได้จากการที่มีเพียงวันเดียวที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน ในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งวัดค่าได้ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถือว่าปีนี้ดีขึ้นมาก โดยการที่มีฝนตกลงมาช่วงนี้ ก็ยอมรับว่าเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยทำให้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด พบว่า ช่วง 50 วันที่ผ่านมา เชียงใหม่มีจุดฮอตสปอต หรือจุดความร้อนกว่า 200 จุด เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกว่า 1,000 จุด ถือว่าลดลงไปถึง 5 เท่าตัว แต่ยังคงมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีมักจะมีปัญหาเกิดขึ้น โดยจะควบคุมการเผาอย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดปัญหาคุณภาพอากาศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงที่ใกล้จะถึงงานประเพณีสงกรานต์เชียงใหม่
นายนพดล ณ เชียงใหม่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว กล่าวว่า ท้องถิ่นเล็งเห็นความสำคัญของปัญหา จึงได้ประสานความร่วมมือกับ 13 องค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมมือกันขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและแก้ปัญหา พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ไฟป่า หมอกควัน และภัยแล้ง พร้อมจัดเวรยามออกลาดตระเวนป้องกันไฟป่าและการเผา ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมถึงวันที่ 30 เมษายน คาดหวังจะป้องกันปัญหาได้เป็นอย่างดี
สำหรับภาคีเครือข่ายทั้ง 13 องค์กรที่ร่วมลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วย สถานีควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย (ด่านตรวจป่าไม้ห้วยตึงเฒ่า) กองพลทหารราบที่ 7 กรมรบพิเศษที่ 5 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพันพัฒนาที่ 3 กองพันสัตว์ต่าง (ค่ายตากสิน) กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 3 ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 3 ฝ่ายปกครองท้องที่โดยกำนันตำบลดอนแก้ว องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริการส่วนตำบลช้างเผือก และองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว
