ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาธารณสุขเชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ระดม อสม.-จนท.รพ.ส่งเสริมสุขภาพเตรียมรับมือปัญหาหมอกควันไฟป่า หลังส่อแววรุนแรง ย้ำ อสม.แนะชาวบ้านงดเผา เตรียมพร้อมดูแลสุขภาพคนในพื้นที่ เผยสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่น่าห่วง เหตุค่าฝุ่นละออง และคุณภาพอากาศยังไม่เกินมาตรฐาน
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่โรงแรมเมอร์เคียว ถนนโชตนา จ.เชียงใหม่ ดร.ทพ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบสุขภาพจากภาวะหมอกควันและไฟป่า ปี 2556 โดยมีสาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ผู้แทนโรงพยาบาลชุมน และประธานอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 450 คนเข้าร่วม
ทั้งนี้ การประชุมจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหมอกควันไฟป่า และผลกระทบต่อสุขภาพจากภาวะหมอกควัน ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี โดยเฉพาะปี 2556 ที่พบว่าเกิดปรากฏการณ์เอนโซ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสภาวะอากาศจะพัฒนาไปสู่การเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเมื่อบวกกับสภาพเชื้อเพลิงสะสมในปี 2555 ทำให้คาดว่าปี 2556 จะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าความผันผวนของสภาพอากาศที่มีความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า Subsidence Invension ที่กักเอาควันและไออากาศร้อนเอาไว้จนไม่สามารถลอยขึ้นสู่บรรยากาศที่สูงขึ้นไป ทำให้ควันไฟกระจายอยู่ในระดับพื้นดินและเกิดเป็นปัญหามลพิษได้
ดร.ทพ.สุรสิงห์กล่าวว่า เป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัดรับมือปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้น โดย อสม.จะเน้นน 3 เรื่อง ได้แก่ 1. ออกรณรงค์และทำความเข้าใจกับประชาชน ให้ตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะหมอกควันไฟป่า และงดเว้นการเผา 2. เฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และ 3. สำรวจและจัดเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง กรณีที่หมอกควันไฟป่ามีความรุนแรง ซึ่งเป็นแนวทางที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการทุกครั้งที่เกิดปัญหา
“ปีนี้ยังไม่พบว่า จ.เชียงใหม่มีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก และค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศเกินกว่ามาตรฐาน ซึ่งการที่มีฝนตกในพื้นที่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สถานการณ์ไม่รุนแรง ขณะที่จำนวนผู้ป่วยพบว่าเป็นผลมาจากการเปลี่ยนฤดูกาล และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ยังไม่พบที่เป็นผลจากหมอกควันไฟป่า อย่างไรก็ตามจะยังคงติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง”