เชียงราย - สสจ.เมืองพ่อขุนฯ ดึงเครือข่ายทั้ง อสม.-อปท.เฝ้าระวังเข้ม พร้อมรณรงค์งดเผาเต็มที่ หลังปี 55 ปัญหาหมอกควัน-ไฟป่า ทำคนป่วยมากเกือบ 2 แสนราย
วันนี้ (18 ก.พ. 56) กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนในอากาศ เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 47-112 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เพราะปริมาณฝุ่นละอองลดลงกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานี
ด้านนายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดในภาคเหนือติดตามเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควันในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษในอากาศ จึงได้ขอความร่วมมือไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมรณรงค์ให้ประชาชนในหมู่บ้านงดเผาเศษหญ้า เผาขยะ หรือเผาป่า อย่างเด็ดขาด
เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาพบปัญหามีฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินกว่ามาตรฐานมากจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เฉพาะปี 2555 ผลการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยในโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. 2555 มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันเข้ารักษาในโรงพยาบาล 197,994 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจากโรคหัวใจทุกชนิด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน หอบหืด และตาอักเสบ
นอกจากนี้ ได้แจ้งให้ทุกอำเภอให้หมู่บ้านที่อยู่ในป่าหรือติดเขตป่าดำเนินการป้องกัน ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันด้วยตัวเองระดับพื้นที่ให้ อสม.ร่วมกับอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) และภาคีเครือข่าย ทำแผนปฏิบัติการชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน มีการควบคุมและดับไฟป่า รณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อลดการเผาอย่างจริงจัง
และขอความร่วมมือให้ชุมชน สอดส่องดูแล เฝ้าระวัง เตือนอย่าให้ประชาชนจุดไฟเผาไร่ เผาขยะ หรือจุดไฟเผาป่า หากพบเห็นขั้นแรกให้ตักเตือนช่วยดับไฟ หากฝ่าฝืนไม่เชื่อฟัง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมและดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 หากประชาชนเผาขยะในหมู่บ้าน ก่อเหตุรำคาญ จะมีโทษปรับ 2,000 บาท
สำหรับผู้กระทำผิดจุดไฟเผาป่าและพื้นที่โล่งแจ้งจะมีโทษทางกฎหมายอาญา ผู้ฝ่าฝืนเผาป่า แผ้วถางป่า พืชทางการเกษตร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท