ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ปรีชา” เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์ไม่เผาป่า ณ ที่เชียงใหม่ ตั้งเป้ารณรงค์ประชาชน 9 จังหวัดภาคเหนืองดการเผาบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ แจงหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากร ทั้งป่าไม้ อุทยานฯ ควบคุมมลพิษ ฯลฯ เตรียมพร้อมรับมือปัญหาแล้ว ชี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนหยุดการเผาอย่างจริงจัง
วันนี้ (19 ม.ค.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวโครงการรณรงค์ “ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” ประจำปีงบประมาณ 2556 ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยมีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม
การรณรงค์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงอันตราย และผลกระทบจากการเผาป่า และปัญหาหมอกควันไฟป่าซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงหน้าแล้งของทุกปี และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด ที่ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ และตาก ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวอย่างรุนแรงในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านสุขภาพของประชาชน สภาพแวดล้อม และผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยขบวนรณรงค์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาป่า วัชพืช หรือเศษวัสดุทางการเกษตร พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนละเว้นการเผาเพื่อร่วมกันรักษาสภาพแวดล้อม
นายปรีชา กล่าวถึงการปล่อยขบวนรณรงค์ในครั้งนี้ว่า เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญต่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยในกิจกรรมดังกล่าว กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนจะร่วมกันออกรณรงค์ในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด โดยมีเป้าหมายเพื่อขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดเว้นการเผา เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในปีนี้รุนแรงเหมือนในปีที่ผ่านมา
นายปรีชากล่าวต่อไปว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติละสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดมาตรการในการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยกรมป่าไม้จะทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลในส่วนของป่าสงวน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดูแลในส่วนของอุทยานแห่งชาติ ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ จะรับผิดชอบในส่วนของการตรวจสอบ และติดตามสภาพอากาศ นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประจำหมู่บ้าน จำนวนประมาณ 300,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งจะร่วมรณรงค์ และดูแลในพื้นที่ไม่ให้มีการเผา ตลอดช่วง 80 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.-10 เม.ย.
นายปรีชา ระบุว่า ที่ผ่านมาการควบคุมเรื่องการเผานั้นอาจจะยังไม่จริงจังมากนัก แต่ในปีนี้จะต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่ าจะต้องงดเว้นการเผาอย่างเด็ดขาด เพราะปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพของประชาชน การคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยว อีกทั้งในปีนี้จะมีการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากสามารถควบคุมไม่ให้มีการเผาเกิดขึ้นได้ ก็จะทำให้ความรุนแรงของปัญหาหมอกควันไฟป่าลดลง
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเปิดเผยว่า ทางกระทรวงโดยกรมป่าไม้ ยังได้จัดเตรียมมาตรการการให้รางวัลเพื่อจูงใจให้พื้นที่ที่มีสถิติการเผาสูงลดปริมารการเผาลง โดยกรมป่าไม้จะเข้าไปหารือกับหมู่บ้าน หรือพื้นที่ที่มีปริมาณการเผาสูงในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยหากหมู่บ้านสามารถลดปริมาณการเผาลงได้ ทางกรมก็จะมีงบประมาณเป็นรางวัลให้