ศูนย์ข่าวศรีราชา - มท.1 เร่งลงพื้นที่แหลมฉบัง เจรจาปัญหาผังเมือง-ท่าเรือเฟส 3 หลังชาวบ้านรวมตัวจะปิดถนน หากรัฐมนตรีไม่มาชี้แจง หรือไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านแกนนำพอใจคำชี้แจงในระดับหนึ่ง แต่พร้อมเดินหน้าคัดค้านต่อไป
เมื่อเวลา 15.10 น. วันนี้ (10 มี.ค.) บริเวณถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าจังหวัดชลบุรี ห่างจากสี่แยกท่าเรือแหลมฉบังประมาณ 1 กิโลเมตร มีกลุ่มชาวบ้านจาก 8 จังหวัดภาคตะวันออก รวมตัวกว่า 100 คน ถือป้ายคัดค้าน และกล่าวโจมตีหน่วยงานที่รับผิดชอบถึงปัญหาผังเมืองรวมของจังหวัดในภาคคะวันออก และปัญหาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 โดยเรียกร้องให้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาชี้แจง และตอบข้อซักถามดังกล่าว
ล่าสุด นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้ติดตาม โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สมาชิกวุฒิสภา นายวิชัย สัมพันธรัตน์ นายอำเภอศรีราชา ให้การต้อนรับ และได้เดินทางมายังพื้นที่ชุมนุมดังกล่าวเพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้าน ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการอิสระเรื่องผังเมือง กล่าวว่า ปัจจุบันผังเมืองจังหวัดชลบุรี และอีกหลายๆ จังหวัด ถูกทบทวนร่างผังเมืองรวมจังหวัดใหม่ โดยอ้างว่าร่างไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ปัจจุบัน และหากประกาศบังคับใช้จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชลบุรีทั้งหมด ดังนั้น จึงได้ถอนร่างผังเมืองรวมมาปรับปรุงใหม่ ทั้งๆ ที่การประชุมบอร์ดผังเมืองใหญ่ได้อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อดำเนินการทำผังเมืองกันใหม่ จะต้องใช้งบประมาณอีกมาก และใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะแล้วเสร็จ
ปัญหาความล่าช้าของการประกาศใช้ผังเมืองรวม สร้างปัญหาอย่างมากมาย เช่น การกว้านซื้อที่ดินแปลงขนาดใหญ่ การยื่นขอจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เขตอุตสาหกรรม ท่าเรือ และโรงงานในพื้นที่เกษตรกรรมทั่วไป สร้างผลกระทบต่อภาคเกษตรกรเพราะความล่าช้า ดังนั้น ทางรัฐมนตรีควรจะต้องรีบประกาศใช้ เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นหมดไป
ด้าน นายจารุพงศ์ กล่าวว่า สำหรับผังเมืองรวมนั้นอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการอีกระยะหนึ่ง ส่วนจะให้ประกาศใช้โดยเร็วนั้นยังไม่สามารถกระทำได้ แต่อยู่ระหว่างการดำเนินการในขณะนี้ จึงขอให้ผู้ชุมนุมอดทนอีกระยะหนึ่ง โดยตนมาครั้งนี้เพื่อมารับเรื่อง และจะเร่งไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อ เพราะเรื่องดังกล่าวรอตั้ง 6 ปีแล้ว ดังนั้น จึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
ส่วนปัญหาท่าเรือเฟส 3 นั้น ในฐานะตนเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเรื่องนี้ตนรับทราบปัญหา โดยเฉพาะหน่วยงานราชการในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี สมาชิกวุฒิสภา ก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เนื่องจากท่าเรือเฟส 1-2 ยังทำไม่สมบูรณ์ และยังส่งผลกระทบอยู่เลย
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า การจะสร้างเฟส 3 นั้น เป็นโครงการอีกยาวไกลที่จะเกิดขึ้น เพราะเฟส 1 และเฟส 2 ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์เท่าที่ควร ยังมีพื้นที่เหลืออยู่ นอกจากนั้น ยังมีผลกระทบต่อชาวบ้าน ดังนั้น การจะสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 คงไม่ใช่เกิดขึ้นในช่วงนี้อย่างแน่นอน และต้องศึกษาผลกระทบเพิ่มขึ้น
สำหรับเฟส 3 นั้น ตามแผนงานที่วางไว้จะต้องถมทะเล มีลักษณะเหมือนเฟส 2 หากเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะชายหาดพัทยา ดังนั้น จึงยังไม่มีบทสรุปว่าจะดำเนินการอะไรในช่วงนี้อย่างแน่นอน
ด้านนายรังสรรค์ สมบูรณ์ แกนนำการคัดค้านท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 กล่าวถึงการชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้นยังไม่ชัดเจน เพราะท่านลงมาเพียงพูดว่ายังไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่รัฐมนตรีคนอื่น หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาพื้นที่ในแต่ละครั้ง เตรียมพร้อมผลักดันให้ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการพูดสวนทางกัน หรือแตกต่างกัน
กลุ่มชาวประมงในพื้นที่แหลมฉบัง และพื้นที่ใกล้เคียงไม่เชื่อมั่นในการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และพร้อมจะเดินหน้าคัดค้านอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่อง เพราะหากเกิดขึ้นจริง จะสร้างปัญหา และผลกระทบเป็นอย่างมาก และคาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีแนวทางการคัดค้านอย่างเต็มรูปแบบอย่างแน่นอน
นายรังสรรค์ กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยทางกลุ่มชาวบ้านจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาจากท่าเรือแหลมฉบังเป็นจุดแรก โดยจะกดดันอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความชัดเจนในโครงการนี้ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครให้คำตอบที่ชัดเจนได้เลย ดังนั้น พวกชาวประมงจะไม่รอคำตอบแล้ว โดยยืนยันไม่ให้เกิดอย่างแน่นอน
