ศูนย์ข่าวขอนแก่น- ไพร่แดงขอนแก่นกร่าง ยกพวกก่อกวนเวทีปราศรัยผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ พยายามปิดทางเข้าออกศูนย์ประชุม กำลังตำรวจหน่วยคุมฝูงชนต้องตั้งแถวสกัด ขณะ “อภิสิทธิ” นำทีมแกนนำพรรคขึ้นเวทีปราศรัย จวกเละนโยบายประชานิยมรัฐบาลกำลังนำพาชาติสู่หายนะ
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ (9 มี.ค.) ที่บริเวณทางเข้าศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 100 คน ได้มาชุมนุมขัดขวางก่อกวนการเปิดเวทีปราศรัยผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ โดยปราศรัยโจมตีต่างๆ นานา และพยายามที่จะบุกเข้าไปยังภายในสถานที่จัดเวทีปราศรัย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยควบคุมฝูงชน และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม 500 นาย ได้ตั้งแถวสกัดไม่ให้เข้าไปได้
อย่างไรก็ตาม ในเวลาเวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้แยกย้ายกันกลับ ขณะที่ในห้องประชุมบนเวทีปราศรัยผ่าความจริง แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ นายสาธิต วงศ์หนองเตย และอีกหลายคนได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย โดยมีประชาชนในจังหวัดขอนแก่น และใกล้เคียงให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังหนาตากว่า 3,000 คน
ส่วนประเด็นหลักๆ ที่แกนนำพรรคปราศรัยนั้น เป็นการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ล้มเหลว พยายามทำทุกอย่างเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวก และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชัน มอมเมาประชาชนด้วยนโยบายประชานิยม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะดันให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น มีเป้าหมายที่จะช่วยให้ทักษิณ ชินวัตร และพวกพ้องของตนเองพ้นผิด ล้มล้างคดีความต่างๆ ในชั้นศาล การออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนคนไทยไม่ได้ประโยชน์แม้แต่น้อย ทั้งที่ตอนหาเสียงพรรคเพื่อไทยได้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่าจะเข้ามาบริหารประเทศเพื่อช่วยให้ประชาชนคนไทยอยู่ดีกินดี แก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศไทย แต่หลังจากเข้าไปบริหารประเทศแล้วกลับลืมคำสัญญาเหล่านี้หมด
นโยบายประชานิยมต่างๆ ทั้งโครงการรับจำนำข้าว รถคันแรก และการขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ 300 บาทนั้น กำลังจะนำพาเศรษฐกิจ และสังคมไปสู่ความหายนะ กรณีของค่าแรง 300 บาทนั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ข้าวของราคาแพงทั้งแผ่นดิน โรงงานขนาดกลางขนาดเล็กประสบปัญหาไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้
เจ้าของโรงงานผู้ประกอบการต้องตัดสวัสดิการทุกอย่างออกหมด เพื่อให้มีเงินพอจ่ายค่าแรง 300 บาท โรงงานจำนวนไม่น้อยต้องลดจำนวนคนงาน ทำให้คนตกงานจำนวนมาก นโนบายค่าแรง 300 บาท เป็นการเอาเงินของภาคเอกชนไปซื้อเสียงให้แก่พรรคเพื่อไทย ถือเป็นนโยบายที่น่าเกลียดที่สุด
