“อภิสิทธิ์” รวบยอดซัด ข้าว-น้ำมัน-ค่าแรง สรุปแพงทั้งแผ่นดิน อัดเพื่อแม้วกัดไม่เลิก หมายต่อรองช่วยคนโกงหมื่นล้าน ย้ำจุดยืนปรองดองเฉพาะชาวบ้านธรรมดา ชี้นิรโทษฯ คอ.นธ.ไม่เคลียร์ บ้านเมืองส่อวุ่น ตอกคนบงการอยู่นอก คนสั่งเผาเมืองสุดใจดำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามโรงเรียนมัธยมวัดใหม่กรงทองในพระราชูปถัมภ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เย็นวันที่ 16 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการปราศรัยเวทีประชาชน “เดินหน้าผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มีวันตาย” ว่า ความจริงของประเทศไทยวันนี้เชื่อว่าพี่น้องจำนวนมากอึดอัดทั้งการเมือง เรื่องอำนาจรัฐ ทั้งเรื่องสินค้าราคาแพง รัฐบาลที่แล้วราคามันสำปะหลังดี ถ้าพืชผลตัวไหนไม่ดี มีเงินส่วนต่างให้ แต่สมัยนี้โครงการจำนำถูกโกง เข้าโครงการไม่ได้ สุดท้ายเกษตรกรเดือดร้อน เป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น แล้วรัฐบาลไปอยู่ที่ไหน รัฐบาลสนใจเฉพาะช่วงหาเสียง โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ได้คะแนนเสียง แต่ของจริง ชีวิตจริงของพี่น้องที่ควรจะได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลไม่มีการติดตามดูแล
โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าววันนี้ พี่น้องเกษตรกรจำนวนหนึ่งที่เข้าโครงการได้อาจจะพึงพอใจ แต่พี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าโครงการได้ หรือถ้าเข้าโครงการได้ก็ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกโกง ที่รัฐบาลบอกว่าตันละ 15,000 ตอนนี้ทั่วประเทศยังไม่เจอแม้แต่รายเดียวที่ได้หมื่นห้า วันนี้ข้าวล้นอยู่ในสต๊อกของรัฐบาล หรือในโครงการไม่ต่ำกว่า 12-13-14 ล้านตัน ขายไม่ออก ถึงขายออกไปก็ขาดทุน และถ้าจะขายออกมาเร็วๆ ราคาข้าวยิ่งตก ถ้าไม่ขายก็จะไม่มีที่จะเก็บข้าวของพี่น้องที่กำลังจะออกมาใหม่ เราจึงสูญเสียแชมป์ส่งออกข้าวไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว เราเคยส่งออกข้าวได้มากเป็นอันดับ 1 ของโลกมา 30 ปี แต่ต้องมาเสียแชมป์การส่งออกข้าวเพราะนโยบายของรัฐบาลชุดนี้
“ประชาธิปัตย์เอาความจริงไปให้ไปถึงสภาฯ ถามกระทู้ เอาหลักฐานชัดเจนว่าข้าวอยู่ในกระสอบ ซึ่งอ้างว่าเพิ่งเข้าไปในโครงการจำนำ เป็นข้าวใหม่ ข้าวหอม เจาะออกมาเป็นข้าวเน่า ถามว่ารัฐบาลสนใจหรือไม่ กระทู้ถามนายกฯ นายกฯ ไม่มาสภา ให้ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาตอบกระทู้ เห็นหมอวรงค์เอาหลักฐานนี้มาส่งมอบให้ แทนที่จะคิดแก้ไข กลับแจ้งจับหมอวรงค์หาว่าไปขโมยข้าวของรัฐบาลมา คิดได้แค่นี้ครับ ไม่ได้มีสนใจความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ส่วนรวม และความเดือดร้อนของประชาชน กรณีนี้คนสุรินทร์ คนอีสานเขาเดือดเนื้อร้อนใจ เพราะข้าวหอมมะลิซึ่งเขาถือว่าเป็นชื่อเสียงของเขากำลังถูกทำลาย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีเรื่องค่าแรง 300 บาท โดยตั้งคำถามว่าลูกจ้าง คนงานมีชีวิตความเป็นอยู่ มีรายได้ที่ดีขึ้นจริงหรือไม่ หรือว่าได้ค่าจ้างเพิ่ม แต่ถูกนายจ้างลดทอนสวัสดิการ การช่วยเหลือต่างๆ เพื่อที่จะอยู่รอด และนายจ้างจะต้องมีการปลดคนงานทำให้คนตกงานหรือไม่ ทั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อเพิ่มค่าแรงเท่ากัน หลายจังหวัดซึ่งธุรกิจมีต้นทุนอื่นแพงกว่าก็กำลังจะอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายถิ่นฐานการผลิต อาจจะย้ายไปประเทศเพื่อนบ้าน หรือย้ายเข้าไปอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากขึ้น ทั้งหมดเป็นความเดือดร้อนที่ประชาชนประสบอยู่จากนโยบายของรัฐบาล
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยตอนหาเสียงประกาศว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะกระชากค่าครองชีพลงมา แล้ววันนี้เป็นอย่างไร แพงทั้งแผ่นดิน สัญญาว่าจะทำให้น้ำมันถูกลง จะยกเลิกกองทุนน้ำมัน วันนี้น้ำมันแพงเป็นประวัติการณ์ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ส่วนเรื่องนิรโทษกรรม รัฐบาลพยายามมาตลอดมีการตั้งคณะกรรมการ คอ.นธ. ระบุว่าจะนิรโทษกรรมเฉพาะประชาชน ให้แกนนำมาลงชื่อบอกไม่รับการนิรโทษกรรม ณัฐวุฒิเจ้าเก่ามาด่า บอกประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ สุเทพใจแคบ อย่าลืมว่าพวกเราเป็นคนแรกที่พูดถึงการนิรโทษกรรมพวกคุณ แต่ให้เฉพาะชาวบ้านตาดำๆ ซึ่งเขาไม่มีเจตนามาใช้ความรุนแรง เขาไม่เคยได้ดิบได้ดีอะไร แต่เขาเชื่อพวกคุณแล้วเขามา แล้วการกระทำของเขาซึ่งปกติไม่ผิดกฎหมาย กลายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พวกตนเป็นคนแรกบอกนิรโทษกรรมให้พวกเขา แต่คนที่ใจดำคือคนที่จับคนเหล่านี้เป็นตัวประกัน จับชาวบ้านตาดำๆ ที่ไปชวนเขา ไปชักจูงเขาให้มาเป็นตัวประกันเพื่อที่ตัวเองจะได้หลุดคดี คนแบบนี้นี้คือคนใจดำอย่างแท้จริง
“แต่ว่าไอ้ใจดำที่สุดน่ะ ไม่อยู่เมืองไทย ตั้งแต่ไหนแต่ไร ชวนคนมาทำนั่นทำนี่ ตัวเองไม่เคยเดือดร้อน วันที่เขานอนอยู่กลางถนน ตัวเองก็นอนอยู่โรงแรม 5 ดาว วันที่เขาต้องมาอดตาหลับขับตานอน ต้องหวาดกลัวไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ตัวเองชอปปิ้งอยู่ในห้างหรูระดับโลก แล้ววันนี้เขาติดคุกมาแล้ว ตัวเองก็ยังอยู่สุขสบายในต่างประเทศเหมือนเดิม นี่ใจดำที่สุด นี่คือความจริงที่พวกเราต้องบอกต่อๆ กันไป เพื่อที่จะให้คนไทยทั้งประเทศตื่นขึ้นมา แล้วถ้าตื่นแล้วเข้าใจความเป็นจริงอย่างนี้ สังคมเราจะก้าวพ้นปัญหาวิกฤติต่างๆ พวกผมไม่เคยเรียกร้องว่าบ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าได้ พวกผมต้องมีอำนาจ ต้องมีตำแหน่ง ต้องเป็นรัฐบาล พวกคุณอย่าบิดเบือน ใช้อำนาจทางที่ผิด อย่าเอารัดเอาเปรียบประชาชนคนเสียภาษี อย่าเบียดบังทรัพยากรของคน ทรัพยากรของชาติ มาแข่งขันกันตามวิถีทางประชาธิปไตย แข่งขันกันทำงานให้กับประชาชนนี่คืออย่างเดียวที่เราเรียกร้อง” นายอภิสิทธิ์กล่าว