ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจนำ 2 พนักงานรถขนเงินแบงก์กรุงไทยฝากขังคดีเงิน 9.2 ล้านหายแล้ว หลังญาติยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านขอประกันตัว แต่ศาลไม่อนุมัติ ด้านตำรวจตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนหวังได้เบาะแสตามหาเงินกลับคืน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (9 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายนายชัชพงศ์ อุทยาน คณะกรรมการประจำรถ และนายสุดปรีชา ทองพันธ์ หัวหน้าชุดประจำรถขนเงิน บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด สองผู้ต้องหาคดีเงิน 9.2 ล้านบาท หายไปจากรถขนเงินที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เบื้องต้น ศาลได้ตั้งวงเงินประกันตัวผู้ต้องหาไว้ที่รายละ 3 ล้านบาท แต่ญาติของผู้ต้องหามีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่ได้รับการประกันตัวในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
ขณะที่ความคืบหน้าของคดีนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจภูธรแม่ริม ยังคงทำการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามนำเงินจำนวน 9.2 ล้านบาท กลับคืนมา รวมทั้งขยายผลหาผู้ที่ร่วมลงมือในครั้งนี้ ทั้งนี้ ทางตำรวจได้มีการตั้งรางวัล จำนวน 100,000 บาท ให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสให้แก่เจ้าหน้าที่จนสามารถนำไปสู่การนำเงินดังกล่าวกลับคืนได้
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (9 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายนายชัชพงศ์ อุทยาน คณะกรรมการประจำรถ และนายสุดปรีชา ทองพันธ์ หัวหน้าชุดประจำรถขนเงิน บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด สองผู้ต้องหาคดีเงิน 9.2 ล้านบาท หายไปจากรถขนเงินที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เบื้องต้น ศาลได้ตั้งวงเงินประกันตัวผู้ต้องหาไว้ที่รายละ 3 ล้านบาท แต่ญาติของผู้ต้องหามีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่ได้รับการประกันตัวในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
ขณะที่ความคืบหน้าของคดีนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจภูธรแม่ริม ยังคงทำการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามนำเงินจำนวน 9.2 ล้านบาท กลับคืนมา รวมทั้งขยายผลหาผู้ที่ร่วมลงมือในครั้งนี้ ทั้งนี้ ทางตำรวจได้มีการตั้งรางวัล จำนวน 100,000 บาท ให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสให้แก่เจ้าหน้าที่จนสามารถนำไปสู่การนำเงินดังกล่าวกลับคืนได้