ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -โคราชไข้เลือดออกระบาดหนัก พบผู้ป่วยพุ่งเกือบ 4 เท่าตัว สสจ.ระบุแค่ 2 เดือนปีนี้ป่วยแล้ว 420 ราย อำเภอเมืองมากสุด พบทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เผยยุงมีพัฒนาการโตเร็วแม้แห้งแล้งแต่กลับระบาดสูง ผู้ว่าฯ สั่งตั้งวอร์รูมทุกอำเภอติดตามการระบาด และเฝ้าระวังป้องกัน ชี้ทุกฝ่ายต้องร่วมกำจัดลูกน้ำยุงลาย ใส่ใจบุตรหลาน เป็นไข้สูงรีบพบแพทย์ทันที
ช่วงบ่ายวันนี้ (6 มี.ค.) ที่ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกาญจนาภิเษก เทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมในการรับมือการระบาดของโรคไข้เลือดออก จังหวัดนครราชสีมา ปี 2556 ครั้งที่ 1 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานบริการ และบุคลากรสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมมือกันสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายพาหะสำคัญของการเกิดโรค และสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันโรค และดูแลผู้ป่วย
นพ.วิชัย เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของไข้เลือดออกล่าสุดว่า โดยภาพรวมทั้งประเทศปีนี้สถานการณ์ช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงกว่าปีที่แล้วเกือบ 4 เท่า ในส่วน จ.นครราชสีมา พบสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูงกว่าปีที่แล้วเกือบ 4 เท่า โดยปี 2555 ช่วง 2 เดือนแรกพบมีผู้ป่วย 114 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทั้งปีป่วย 3,000 กว่าราย เสียชีวิต 8 ราย แต่ในปี 2556 แค่ช่วง 2 เดือนแรก พบมีผู้ป่วยแล้ว 420 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดย อ.เมืองนครราชสีมา มีผู้ป่วยสูงสุดรวม 138 ราย รองลงมาคือ อ.สีดา อ.ปากช่อง และ อ.หนองบุญมาก พื้นที่ที่พบการระบาดได้ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดยุงลายพาหะนำโรคแล้ว
นพ.วิชัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ โดยปกติในช่วงสิ้นปี คือ เดือนธันวาคม จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกจะลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ แต่ปีที่ผ่านมา ช่วงปลายปีสถานการณ์ไข้เลือดออกกลับมีตัวเลขสูงซึ่ง แสดงให้เห็นว่าในปี 2556 นี้ มีแนวโน้มการระบาดของโรคไข้เลือดออกรุนแรงมากขึ้น และแม้ว่าในปีนี้ จ.นครราชสีมา ฝนไม่ค่อยตกและขณะนี้แห้งแล้งด้วยซ้ำ แต่ยังมีไข้เลือดออกระบาดสูง ซึ่งสามารถมองได้ว่าอาจเกิดจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้ไข่ยุงมีการฟักตัว และมีวงจรชีวิตที่สั้นลงมาอีก ทำให้ยุงโตเต็มวัยเร็วขึ้นที่ผ่านมาจึงไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ ฉะนั้น สถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกปีนี้จึงน่าเป็นห่วง และมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มสูงขึ้นจำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
สำหรับมาตรการป้องกันการระบาดนั้น ล่าสุด นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ส่วนราชการต่างๆ ได้เตรียมพร้อมในเรื่องนี้แล้ว โดยให้ตั้งวอร์รูม (War Room) เพื่อติดตามการระบาดและเฝ้าระวังป้องกันในทุกอำเภอ เพราะลำพังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) คงมีไม่เพียงพอ ดูแลได้แค่ 10% เท่านั้น ดังนั้น ประชาชนทุกบ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารหน่วยงานองค์กรต่างๆ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายอำเภอทุกแห่ง ต้องช่วยกันควบคุมกำจัดลูกน้ำยุงลายไม่ให้มีมาก เพราะจะทำให้การระบาดของไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ หากมีผู้ป่วยมาก คนตายก็เพิ่มมากขึ้นตาม ทางที่ดีคือ การป้องกันการเจ็บป่วย ไม่ให้มีลูกน้ำยุงลายก็ต้องช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ทั้งภาชนะใส่น้ำดื่มน้ำใช้ต้องหมั่นล้างทำความสะอาดไม่ให้มีน้ำขัง คว่ำชามไห กะลา หรือใส่ทรายอะเบต และปล่อยปลาหางนกยูงในอ่างเพื่อควบคุมการเติบโตของยุง
“จากสถิติขณะนี้ผู้ป่วยไข้เลือดออกไม่พบเฉพาะเด็กเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่ก็ป่วยเช่นกัน จึงขอให้ผู้ปกครองใส่ใจดูแลบุตรหลาน และคนในครอบครัว นอนควรกางมุ้ง หรือติดมุ้งลวด หากมีอาการไข้สูงลอย 2 วัน ซึม อาเจียน ให้สงสัยว่าอาจเป็นอาการของไข้เลือดออกไว้ก่อน และให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป” นพ.วิชัย กล่าวในตอนท้าย
