สธ.ระนอง เตือนโรคไข้เลือดออกส่อเค้าระบาด วอนชาวบ้านช่วยป้องกัน

ระนอง - แพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เผยเริ่มพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน พร้อมวอนชาวบ้านช่วยกันป้องกันการเพาะพันธุ์ยุงลายพาหะนำโรค คาดปีนี้ระบาดหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา

วันนี้ (25 ก.พ.) นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่ว่า ตั้งแต่วันที่ 1-25 ก.พ.2556 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่แล้ว จำนวน 35 ราย ซึ่งปีที่แล้วพบแค่ 26 รายเท่านั้น โดยพบในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 10-14 ปีมากที่สุด รองลงมากลุ่มอายุ 6-9 ปี แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

สำหรับพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค ได้แก่ ต.น้ำจืด อำเภอกระบุรี และ อ.เมือง แนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคมีสูงขึ้น สาเหตุอาจจะมาจากการมีน้ำท่วมขัง ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ดังนั้น จึงขอให้ทุกคนได้ตระหนัก และให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคอย่างจริงจัง

“ระวังอย่าให้ยุงกัด ทาโลชันกันยุงทุกครั้ง และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เปลี่ยนน้ำในภาชนะขนาดเล็กในบ้านทุกสัปดาห์ ปล่อยปลาหางนกยูง ปลากินลูกน้ำในอ่างบัวอ่างปลูกพืชน้ำต่างๆ ในบริเวณบ้าน ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ปฏิบัติเป็นนิสัยอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตัดวงจรชีวิตของยุง” นพ.สุริยะกล่าว

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนองกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง ได้มีมาตรการควบคุมการระบาดของไข้เลือดออก โดยได้ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน อาสาสมัคร และสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง เพื่อร่วมกันรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในโรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อีกทั้งได้ขอความร่วมมือกับ อสม.สำรวจควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ป่วยภายในบ้าน โดยมีอาการไข้สูงเกิน 2 วัน หากรับประทานยา พาราแล้วยังไม่มีอาการดีขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที ส่วนวิธีป้องกันการเพาะพันธุ์ของยุงลายนั้น 1.สามารถขอทรายกำจัดลูกน้ำจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัด ซึ่งทรายจะใช้ได้ 3-4 เดือน หรือใส่ปลาหางนกยูง 2.ถ้าในบ้านมียุงให้ใช้สเปรย์ฉีดป่น หรือแจ้งทางราชการช่วยพ่นยาฆ่ายุง นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขคาดว่าในปีนี้จะมีการระบาดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาด