บุรีรัมย์ - “เนวิน” ทุ่ม 2 พันล้านผุดสนามมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่ จ.บุรีรัมย์ ความจุผู้ชม 5 หมื่นคน เผยต้องการพัฒนาบุรีรัมย์ เป็นเมืองท่องเที่ยวและกีฬาดีที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันเป็นสนามแข่งรถทัวร์นาเมนต์สำคัญระดับโลก
วันนี้ (3 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วยนายตรัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการโครงการบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมกันแถลงข่าวโครงการก่อสร้างสนามมอเตอร์สปอร์ตมาตรฐานระดับโลก ภายใต้ชื่อโครงการ “บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ที่ห้องแถลงข่าวสนามนิวไอ-โมบายสเตเดี้ยม อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
นายเนวินกล่าวว่า เป้าหมายในการทุ่มทุนพัฒนาโครงการดังกล่าว เพราะอยากพัฒนาให้ จ.บุรีรัมย์ เป็นเมืองท่องเที่ยวและกีฬาที่ดีที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศมาปักหมุดสถานที่ที่ควรมาเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต นอกจากนั้นในระดับนานาชาติยังจะผลักดันให้เป็นสนามแข่งรถที่ใช้ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ ระดับโลก มั่นใจว่าภายใน 5 ปี จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของบุรีรัมย์ และของประเทศได้ เพราะจากแผนการพัฒนาธุรกิจที่ประมาณการไว้ว่า จะมีผู้เข้าชมหรือใช้สนามไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านคน
ด้านนายตรัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการโครงการ กล่าวว่า “บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” เป็นโครงการก่อสร้างสนามแข่งขันรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดและเป็นสนามมาตรฐานระดับอินเตอร์เนชันแนลที่ได้รับการรับรองจาก FIA (สมาพันธ์แข่งรถนานาชาติ) และ FIM (สมาพันธ์กีฬาแข่งขันจักรยานยนต์นานาชาติ) โดยจะเริ่มก่อสร้างเดือนมิถุนายน 2013 และมีกำหนดเสร็จในปีประมาณเดือน ตุลาคม 2014
โดยสนามแห่งนี้มีทางวิ่งกว่า 4 กิโลเมตร 16 โค้ง เป็นสนามสมัยใหม่รูปแบบความเร็วสูงเหมาะกับรถแข่งสมัยใหม่ที่มีความเร็วสูง ใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 796 ไร่ ใกล้กับสนามฟุตบอลนิวไอ-โมบายสเตเดี้ยม โดยมี Mr. Hermann Tilke ชาวเยอรมัน นักออกแบบสนาม F1 และ Motor Gp ที่ออกแบบสนามมาแล้วกว่า 10 สนามทั่วโลก เป็นผู้ออกแบบสนามมอเตอร์สปอร์ตที่บุรีรัมย์ในครั้งนี้ เฉพาะงบออกแบบร่วม 100 ล้าน มีความจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
สามารถรองรับการแข่งขันระดับฟอร์มูลา 3, เวิลด์ ทัวริงคาร์, ซูเปอร์ จีที รวมถึงการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกได้ และจะได้รับรองมาตรฐานระดับ FIM Grade จากสหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือเอฟไอเอ็ม และจะมีการพัฒนาโครงการให้ถูกจัดเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์สำคัญระดับโลกอย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย
